สนธิ ยันพร้อมให้ปากคำ 17 พ.ค. - ท้าตำรวจออกหมายจับมาได้เลย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2549 15:38 น.

แกนนำพันธมิตรฯ แถลงเปิดใจจับมือเดินหน้าสู้อำนาจเถื่อน ประกาศพร้อมให้จับทุกเมื่อไม่หนี สนธิ ยันพร้อมให้ปากคำ 17 พ.ค.เพราะติดภารกิจปราศรัย ท้าตำรวจอยากออกหมายจับก่อนก็ออกมาได้เลย ลั่นการชุมนุมใหญ่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หาก ทักษิณ ยังไม่ลาออก

วันนี้ (17 เม.ย.) แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย และนายสุริยะใส กตะศิลา พร้อมด้วย นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้แถลงแสดงจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ

โดย นายสุวัตร กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปขอเลื่อนการให้ปากคำของ นายสนธิ ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไปเป็นวันที่ 17 พ.ค.แต่ตำรวจไม่ยอม ซึ่ง พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผช.ผบ.ตร. หัวหน้าชุดคดีนี้เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศได้บอกว่าอยากให้เกิดความปรองดอง แต่พอนายกฯ ไปแล้ว แกนนำพันธมิตรฯ ก็ถูกฟ้องเป็นคดีจำนวนมาก ทั้งที่เราชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ แกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่เคยทำผิดหรือสร้างความเสียหาย

ขอยืนยันว่าเราจะไม่ไปพบตามที่พนักงานสอบสวนเรียก เพราะหมายเรียกไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจไม่มีสิทธิออกหมายจับ ทั้งนี้ การจะออกหมายจับได้ ตำรวจจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อให้ศาลอนุญาต ถ้าศาลอนุญาตออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ได้หารือกันแล้ว พร้อมให้จับ

แต่ผมอยากถามว่า ทำคดีที่มีการแจ้ง ทั้งการปาระเบิดสวนลุมพินี นสพ.ผู้จัดการ และการชุมนุมของคาราวานคนจนชุมนุมทำให้เกิดความเสียหาย ขี่รถอีแต๋นเข้า กทม.หรือคดีอื่นๆ กลับไม่คืบ ตำรวจไม่ดำเนินการอะไรเลย แถม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไปพบม็อบคาราวานคนจน แสดงว่ารู้เห็นเป็นใจ ตำรวจกลับเพิกเฉย นายสุวัตร กล่าว

ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ผมอยากให้ตำรวจรีบมาจับเดี๋ยวนี้เลย ผมยอมให้จับไม่หนี อยากให้มาจับเร็วๆ ได้ทุกเมื่อ แกนนำพันธมิตรฯทุกคนพร้อมและยินดีให้จับ จะได้รู้ว่ามีตำรวจคนใดรับใช้นายทักษิณ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทำผิดจารีตประเพณี ผมยังแปลกใจทำไมผู้ต้องหาคนอื่นขอเลื่อนให้ปากคำได้ แต่ผมขอเลื่อนตำรวจไม่ยอม ผมขอย้ำว่า มีปัญญาจับมาจับเลย อย่ามัวแต่ให้สัมภาษณ์ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผช.ผบ.ตร.หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีนี้ก็เป็นตำรวจรุ่นพี่นายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เป็นตำรวจรุ่นเดียวกับนายกฯ เวลาผมเดินทางไปไหนจะต้องมีการแจ้งให้นายทักษิณทราบ ผมถูกลิดรอนสิทธิตลอดเวลา ส่วน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม ต้องเห็นใจ เพราะภรรยาเป็นหลานนายทักษิณ ละอายแก่ใจกันบ้างไหม

นายสนธิ กล่าวย้ำว่า ตนพร้อมจะไปพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 17 พ.ค.ไม่ได้ต้องการหลบหนีไปไหน เพียงแต่ยังไม่ว่างเท่านั้น แต่ถ้าตำรวจอยากจะออกหมายจับก่อนก็ออกมาได้เลย

นายสนธิ กล่าวต่อว่า จุดยืนของพันธมิตรฯยังเหมือนเดิม คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องลาออก แล้วมีการปฏิรูปการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอม เพราะต้องการสืบทอดระบอบทักษิณ เพื่อจัดการเรื่องที่ตัวเองได้สร้างไว้ โดยการเร่งโครงการเมกะโปรเจกต์ ส่วนที่จะมีการตั้งนายกฯนอมินีขึ้นมาแทน ตนไม่สนใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลาออกเท่านั้น ส่วนการเปิดสภาหากมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วออกมาเปิดสภาได้ ตนก็ขอสงวนสิทธิ์ในการชุมนุมใหญ่ต่อไป ขอยืนยันว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯเพื่อสร้างระบอบความเป็นธรรมให้กับสังคม ซึ่งมีความจำเป็นต้องต่อสู้กับระบอบเก่าและระบอบทักษิณ แม้ว่าจะมีอันตรายและมีการการใช้อำนาจรัฐโดยมีตำรวจเป็นเครื่องมือ เราไม่กลัวคำขู่ จะต่อสู้ต่อไปไม่หยุดยั้ง และไม่ท้อถอย เพื่อเปิดศักราชใหม่ของสังคมไทยด้วยความยุติธรรม