ตร.ออกหมายเรียกสนธิรอบสองแล้ว
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2549 12:03 น.
ผู้การกองปราบเดินหน้าออกหมายเรียก"สนธิ"รอบสอบ ขีดเส้นให้เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 24 หรือ 25 เม.ย.นี้ พร้อมมั่นใจว่าจะเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาได้ ลั่นที่ผ่านมาไม่มีใครพูดหมิ่นชัดเจนเท่ากับนายสนธิ อีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่นายสนธิ ได้มอบอำนาจให้ทนายความนำหนังสือและคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมหลักฐานมายื่นให้พนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม รับเรื่องเมื่อวานนี้(17 เม.ย.49)เพื่อขอเลื่อนวันเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 17 พ.ค. 49 แต่พนักงานสอบสวน ไม่อนุญาตให้นายสนธิ เลื่อนวันเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามคำร้องนั้น
วันนี้(18 เม.ย.49)พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนคดีนี้ได้ทำการออกหมายเรียกนายสนธิ อีกครั้งในช่วงเช้าที่ผ่านมา และขณะนี้นายสนธิ ได้รับทราบแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะให้เวลานายสนธิ ให้มาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 24 หรือ 25 เม.ย. นี้ แต่หากมาไม่ได้ และขอเลื่อนนัดอีก ก็คงจะต้องดูเหตุผลว่าจะรับฟังได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายสนธิ ได้ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 17 พ.ค. นี้ โดยอ้างติดภารกิจปราศรัยนั้น ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาอ้างกับพนักงานสอบสวนว่าไม่สามารถเดินทางมาพบได้ ทำให้พนักงานสอบสวนมองว่านายสนธิ มีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือ หลีกเลี่ยงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของนายสนธิ ที่พูดมาโดยตลอดว่าพร้อมจะเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมจะถูกดำเนินคดี
พล.ต.ต.วินัย กล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณาคดีหมิ่นฯ นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีความมั่นใจว่าจะเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะขณะนี้ได้สอบสวนพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก โดยพนักงานสอบสวนมีหลักฐานทั้งภาพและเสียง ซึ่งข้อมูลนั้นตรงกับที่ทนายของนายสนธิ นำเอกสารมายื่นให้เพิ่มเติมวานนี้ เพียงแต่ว่าขณะนี้ต่างฝ่ายต่างมองกันว่าตัวเองไม่ผิด คงเป็นเรื่องความเห็นขัดแย้งกัน
ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอน ตรงไปตรงมา เพียงแต่คดีหมิ่นเบื้องสูงนั้น จะให้มาชี้แจงรายละเอียดต่อสาธารณะชนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องละเว้นไว้ ดังนั้นทำให้พนักงานสอบสวนต้องตกเป็นจำเลยต่อสังคม ว่าเร่งรัดคดีเพื่อให้นายสนธิถูกดำเนินคดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พนักงานสอบสวนเลือกปฏิบัติหรือไม่ ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายสนธิ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดจาพาดพิงเบื้องสูง พล.ต.ต.วินัย ได้กล่าวตอบด้วยเสียงเคร่งขรึมและชักสีหน้าไม่พอใจทันที ว่า พูดหมิ่นตรงไหน ให้บอกรายละเอียดมา หมิ่นตรงไหน ที่ผ่านมาไม่มีใครพูดหมิ่นชัดเจนเท่ากับนายสนธิ อีกแล้ว