กรณีรุ่นพี่โหดโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป พารุ่นน้องไปรับน้องอย่างทารุณที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
จนนายนิพนธ์ หรืออั้ม โตสิงห์ อายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดสมองนอนไม่รู้สึกตัวเป็นเจ้าชายนิทรา ความคืบหน้าที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ผู้ปกครองพานายชิษณุพงษ์ หรือเอ็ม สมเสียง อายุ 21 ปี นักเรียนรุ่นพี่ ปวช.ปี 3 ที่ศาลออกหมายจับข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมด้วยนายกิตติพล หรือโบ้ ผิวผ่อง อายุ 19 ปี อดีตนักเรียนโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป. และ พ.ต.ท.สมบัติ มาลัย พงส. (สบ 3) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
นายชิษณุพงษ์เปิดเผยว่า เป็นรุ่นพี่ที่พารุ่นน้องไปรับน้องด้วยจริง
แต่เป็นเพียงคนสั่งให้รุ่นน้องกลิ้งไปตามทรายริมชายหาดเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้กลิ้งไปบนทรายร้อนที่กลบกองไฟไว้ ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นรุ่นพี่คนอื่นจะพารุ่นน้องไปทำอะไรต่ออีกหรือไม่ ส่วนนายกิตติพลยอมรับว่า เรียนที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลปได้ปีเดียวก็ลาออกมาเรียน กศน.แทน แต่ร่วมเดินทางไปรับน้องใหม่ด้วย สมัยที่ตนเข้ามาเป็นรุ่นน้อง ก็ถูกรุ่นพี่พามาจัดงานในรีสอร์ตเกิดเหตุเหมือนกัน โดนรุ่นพี่นำส้อมลนไฟมาทาบที่หน้าอกทำบาร์โค้ด เช่นเดียวกันกับที่ทำรุ่นน้องกลุ่มนี้ พวกตนเคยโดนมาก่อนเป็นวัฒนธรรมของกลุ่มที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ในแก๊งจะมีแหวนรุ่นของรุ่นพี่ที่เป็นมรดกตกทอดกันมาหลายรุ่น จึงอยากจะให้รุ่นน้องเกิดความหวงแหนแหวนรุ่นที่จะได้ไป อย่างไรก็ตาม ก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดว่าเรื่องจะบานปลายเช่นนี้