ตร.ระดมล่าฆาตกร ก่อคดีสะเทือนขวัญใจกลางกรุง
ฆ่าปาดคอสาวคาตู้โทรศัพท์สาธารณะย่านวงเวียน 22 กรกฎา เผยเหตุเกิดกลางดึก ขณะสาวผู้ตายเข้าไปหยอดเหรียญโทร.หาเพื่อน เพราะแบตฯมือถือหมดพอดี เลยถูกคนร้ายบุกเชือดคอตายคาที่ แต่ทรัพย์สินต่างๆ ในตัวยังอยู่ครบ เชิญตัวแฟนหนุ่มสอบเค้น แต่มีพยานยืนยันที่อยู่ขณะเกิดเหตุได้ชัดเจนว่าไม่ใช่คนลงมือ สงสัยเป็นการชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืนก็เลยทำร้ายถึงตาย แล้วลนลานหนีไปโดยไม่ได้ฉกทรัพย์สินติดมือไปด้วย
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 25 ก.ย.
ร.ต.อ.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ ร้อยเวรสน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุฆาตกรรมบนทางเท้าบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาวงเวียน 22 กรกฎา ปากซอยมังกร ถ.มิตรพันธ์ แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนทางเท้าติดกับตู้โทรศัพท์สาธารณะจำนวน 3 ตู้
ที่ตู้กลางพบรอยคราบเลือดติดอยู่ที่กระจก โดยหูฟังโทรศัพท์ห้อยคาอยู่ บนพื้นพบศพน.ส.สุชาดา อมรแสงชิดศักดิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/15 ถ.ราษฎรดำริ 1 ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเลือด กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ลำคอถูกเชือดด้วยมีดเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ยาวประมาณ 2 นิ้ว ใกล้กันพบกระเป๋าถือสีขาวของผู้ตายตกอยู่ ตรวจสอบทรัพย์สินพบเงินสด 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง
ต่อมานายไพรัช เวชสิทธิผลดีเด่น ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อายุ 36 ปี แฟนของผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ
แจ้งว่าเป็นศพของแฟนสาว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบปากคำที่สน.พลับพลาไชย 1
นายไพรัชให้การว่า
แฟนสาวทำงานเป็นพนักงานขายหนังสืออยู่ย่านสยามสแควร์ และขายประกันให้กับบริษัทประกันของประเทศอิตาลี คบหาเป็นแฟนกับผู้ตายมาประมาณ 2 ปี โดยพักอยู่ด้วยกันบนชั้น 8 อาคารชุดคอนโดมิเนียม 22 กรกฎา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
ปกติแฟนจะสนิทกับกลุ่มเพื่อนทำงานด้วยกัน
และมักนัดเที่ยวกันบ่อยครั้ง ส่วนตนไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนของแฟนสาวเพราะอายุห่างกัน ช่วงหลังแฟนสาวมักกลับบ้านดึก ตนเคยบอกเสมอๆ ว่าอย่ากลับดึกเพราะอาจเกิดอันตราย ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน แฟนสาวบอกว่าจะขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ตนก็อนุญาตให้ไป เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเช้าตอนแฟนสาวออกไปทำงาน ช่วงค่ำตนออกไปซื้ออาหารมาให้แม่ ยังไม่ทันเจอแฟนสาวก็ได้รับโทรศัพท์ว่ามีคนถูกฆ่าตายมีหน้าตาเหมือนแฟนสาว จึงรีบมาดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านพล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า
สาเหตุการสังหารอยู่ระหว่างสอบสวน เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบปากคำแฟนของผู้ตาย เพื่อน และผู้ที่เกี่ยวข้องของผู้ตายไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งต้องดูว่าขณะเกิดเหตุมีรปภ.เห็นเหตุการณ์หรือไม่ จะได้เรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ต.ประกาศิต สอดจันทร์ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1 เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า
ได้เรียกตัวนายไพรัช แฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำแล้ว ในเบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำพบว่ามีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปตรวจสอบหาคราบเลือด แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังตรวจสอบแล้วไม่น่าจะไปเป็นผู้ลงมือฆ่าปาดคอแฟนสาว เพราะจากการตรวจสอบจากกล้องทีวีวงจรปิดที่พัก รวมทั้งสอบพยานที่นายไพรัชกล่าวอ้างถึง เชื่อว่านายไพรัชมีพยานยืนยันรู้เห็นว่า ขณะเกิดเหตุนายไพรัชไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ได้ออกจากห้องไปจริงเวลาประมาณ 21.00 น. ไปหาเพื่อนเพื่อเล่นไพ่ที่โรงแรมโซลทวิน ย่านหัวลำโพง จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคนเสียชีวิต
พ.ต.ต.ประกาศิตกล่าวว่า
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายออกไปนั่งกินข้าวเหนียวส้มตำกับเพื่อน และแยกย้ายกันกลับที่พัก โดยผู้ตายขึ้นรถแท็กซี่กลับที่พักและพยายามโทรศัพท์บอกเพื่อนว่า กลับถึงที่พักแล้ว แต่ปรากฏว่าแบตฯโทรศัพท์หมด ก็เลยใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ ระหว่างนั้นคนร้ายเข้ามาด้านหลังใช้มีดปาดคอผู้ตายเสียชีวิต เชื่อว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนคนร้ายจึงใช้อาวุธมีดปาดคอและรีบร้อนหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินไปด้วย แต่คงยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาว นอกจากนี้ช่วงเช้าได้ประสานไปที่ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อขอดูภาพจากกล้องทีวีวงจรปิด แต่ก็ไม่สามารถจับภาพที่เกิดเหตุได้ แต่ยังมีกล้องทีวีอีกกล้องหนึ่งหน้าธนาคารกรุงเทพใกล้ที่เกิดเหตุเหมือนกัน กำลังติดต่อเพื่อขอตรวจสอบกับธนาคารอยู่ เนื่องจากบริเวณในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เซฟตี้โซน จึงมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายจุด คาดว่าจะเป็นเบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุสยองดังกล่าว
ต่อมาเวลา 20.00 น. พ.ต.ต.ประกาศิต เปิดเผยว่า
จากการตรวจสอบภาพกล้องทีวีวงจรปิดธนาคารกรุงเทพ ใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นผู้ตายเดินผ่านหน้าธนาคารไปตอนเวลาประมาณ 23.00 น. จากนั้นสักพักหนึ่งได้มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ข้ามเลนถนนมาจอดหน้าธนาคาร คนนั่งซ้อนท้ายลงจากรถแล้วเดินตามผู้ตายไป แต่ไม่มีกล้องตัวอื่นที่สามารถจับภาพเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับร้านอภิชาติการยาง อยู่ติดธนาคารกรุงเทพ ซึ่งติดกล้องวงจรปิดอีก 2 ตัว ตรวจสอบพบชายวัยรุ่นสองคนขับรถจักรยานยนต์ขับผ่าน คนขับสวมเสื้อยืดสีอ่อนๆ ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ ลักษณะรูปร่างสันทัด ไม่สวมหมวกหรือแว่นตาอำพราง คาดว่าทั้งสองคนน่าจะเป็นคนร้าย แต่จากการตรวจสอบภาพไม่ค่อยชัดเจน คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งวิ่งราวทรัพย์ที่ตระเวนหาเหยื่อเวลากลางคืน พอสบโอกาสจะลงมือทันที คนร้ายน่าจะเห็นผู้ตายยืนโทรศัพท์อยู่ จึงเข้าไปใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ แต่คงมีการต่อสู้กันขึ้นคนร้ายใช้มือบีบคอผู้ตาย และเอามีดแทงลำคอจนเสียชีวิตและรีบหลบหนีไปโดยไม่ได้เอาทรัพย์สินไปแต่อย่างใด
พ.ต.ต.ประกาศิตกล่าวว่า
จากการสอบสวนรปภ.คอนโดฯ ตรงข้ามที่เกิดเหตุ ก็ให้การว่าเขาไม่เห็นเหตุการณ์ แต่หลังเกิดเหตุแล้วได้เดินไปหน้าธนาคารและสังเกตเห็นมีคนนอนอยู่หน้าตู้โทรศัพท์ คิดว่าเป็นคนเมาเหล้า จึงไปตามเพื่อนรปภ.มาดู พบว่าเป็นผู้หญิงถูกแทงเสียชีวิต
ฆ่าปาดคอสาวคาตู้โทรศัพท์สาธารณะย่านวงเวียน 22 กรกฎา เผยเหตุเกิดกลางดึก ขณะสาวผู้ตายเข้าไปหยอดเหรียญโทร.หาเพื่อน เพราะแบตฯมือถือหมดพอดี เลยถูกคนร้ายบุกเชือดคอตายคาที่ แต่ทรัพย์สินต่างๆ ในตัวยังอยู่ครบ เชิญตัวแฟนหนุ่มสอบเค้น แต่มีพยานยืนยันที่อยู่ขณะเกิดเหตุได้ชัดเจนว่าไม่ใช่คนลงมือ สงสัยเป็นการชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืนก็เลยทำร้ายถึงตาย แล้วลนลานหนีไปโดยไม่ได้ฉกทรัพย์สินติดมือไปด้วย
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 25 ก.ย.
ร.ต.อ.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ ร้อยเวรสน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุฆาตกรรมบนทางเท้าบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาวงเวียน 22 กรกฎา ปากซอยมังกร ถ.มิตรพันธ์ แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนทางเท้าติดกับตู้โทรศัพท์สาธารณะจำนวน 3 ตู้
ที่ตู้กลางพบรอยคราบเลือดติดอยู่ที่กระจก โดยหูฟังโทรศัพท์ห้อยคาอยู่ บนพื้นพบศพน.ส.สุชาดา อมรแสงชิดศักดิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/15 ถ.ราษฎรดำริ 1 ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเลือด กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ลำคอถูกเชือดด้วยมีดเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ยาวประมาณ 2 นิ้ว ใกล้กันพบกระเป๋าถือสีขาวของผู้ตายตกอยู่ ตรวจสอบทรัพย์สินพบเงินสด 2,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง
ต่อมานายไพรัช เวชสิทธิผลดีเด่น ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อายุ 36 ปี แฟนของผู้ตาย เดินทางมาที่เกิดเหตุ
แจ้งว่าเป็นศพของแฟนสาว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบปากคำที่สน.พลับพลาไชย 1
นายไพรัชให้การว่า
แฟนสาวทำงานเป็นพนักงานขายหนังสืออยู่ย่านสยามสแควร์ และขายประกันให้กับบริษัทประกันของประเทศอิตาลี คบหาเป็นแฟนกับผู้ตายมาประมาณ 2 ปี โดยพักอยู่ด้วยกันบนชั้น 8 อาคารชุดคอนโดมิเนียม 22 กรกฎา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
ปกติแฟนจะสนิทกับกลุ่มเพื่อนทำงานด้วยกัน
และมักนัดเที่ยวกันบ่อยครั้ง ส่วนตนไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนของแฟนสาวเพราะอายุห่างกัน ช่วงหลังแฟนสาวมักกลับบ้านดึก ตนเคยบอกเสมอๆ ว่าอย่ากลับดึกเพราะอาจเกิดอันตราย ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน แฟนสาวบอกว่าจะขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ตนก็อนุญาตให้ไป เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเช้าตอนแฟนสาวออกไปทำงาน ช่วงค่ำตนออกไปซื้ออาหารมาให้แม่ ยังไม่ทันเจอแฟนสาวก็ได้รับโทรศัพท์ว่ามีคนถูกฆ่าตายมีหน้าตาเหมือนแฟนสาว จึงรีบมาดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านพล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า
สาเหตุการสังหารอยู่ระหว่างสอบสวน เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบปากคำแฟนของผู้ตาย เพื่อน และผู้ที่เกี่ยวข้องของผู้ตายไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งต้องดูว่าขณะเกิดเหตุมีรปภ.เห็นเหตุการณ์หรือไม่ จะได้เรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ต.ประกาศิต สอดจันทร์ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 1 เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า
ได้เรียกตัวนายไพรัช แฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำแล้ว ในเบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำพบว่ามีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปตรวจสอบหาคราบเลือด แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังตรวจสอบแล้วไม่น่าจะไปเป็นผู้ลงมือฆ่าปาดคอแฟนสาว เพราะจากการตรวจสอบจากกล้องทีวีวงจรปิดที่พัก รวมทั้งสอบพยานที่นายไพรัชกล่าวอ้างถึง เชื่อว่านายไพรัชมีพยานยืนยันรู้เห็นว่า ขณะเกิดเหตุนายไพรัชไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ได้ออกจากห้องไปจริงเวลาประมาณ 21.00 น. ไปหาเพื่อนเพื่อเล่นไพ่ที่โรงแรมโซลทวิน ย่านหัวลำโพง จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคนเสียชีวิต
พ.ต.ต.ประกาศิตกล่าวว่า
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายออกไปนั่งกินข้าวเหนียวส้มตำกับเพื่อน และแยกย้ายกันกลับที่พัก โดยผู้ตายขึ้นรถแท็กซี่กลับที่พักและพยายามโทรศัพท์บอกเพื่อนว่า กลับถึงที่พักแล้ว แต่ปรากฏว่าแบตฯโทรศัพท์หมด ก็เลยใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ ระหว่างนั้นคนร้ายเข้ามาด้านหลังใช้มีดปาดคอผู้ตายเสียชีวิต เชื่อว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืนคนร้ายจึงใช้อาวุธมีดปาดคอและรีบร้อนหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินไปด้วย แต่คงยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาว นอกจากนี้ช่วงเช้าได้ประสานไปที่ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อขอดูภาพจากกล้องทีวีวงจรปิด แต่ก็ไม่สามารถจับภาพที่เกิดเหตุได้ แต่ยังมีกล้องทีวีอีกกล้องหนึ่งหน้าธนาคารกรุงเทพใกล้ที่เกิดเหตุเหมือนกัน กำลังติดต่อเพื่อขอตรวจสอบกับธนาคารอยู่ เนื่องจากบริเวณในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เซฟตี้โซน จึงมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายจุด คาดว่าจะเป็นเบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุสยองดังกล่าว
ต่อมาเวลา 20.00 น. พ.ต.ต.ประกาศิต เปิดเผยว่า
จากการตรวจสอบภาพกล้องทีวีวงจรปิดธนาคารกรุงเทพ ใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นผู้ตายเดินผ่านหน้าธนาคารไปตอนเวลาประมาณ 23.00 น. จากนั้นสักพักหนึ่งได้มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ข้ามเลนถนนมาจอดหน้าธนาคาร คนนั่งซ้อนท้ายลงจากรถแล้วเดินตามผู้ตายไป แต่ไม่มีกล้องตัวอื่นที่สามารถจับภาพเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับร้านอภิชาติการยาง อยู่ติดธนาคารกรุงเทพ ซึ่งติดกล้องวงจรปิดอีก 2 ตัว ตรวจสอบพบชายวัยรุ่นสองคนขับรถจักรยานยนต์ขับผ่าน คนขับสวมเสื้อยืดสีอ่อนๆ ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ ลักษณะรูปร่างสันทัด ไม่สวมหมวกหรือแว่นตาอำพราง คาดว่าทั้งสองคนน่าจะเป็นคนร้าย แต่จากการตรวจสอบภาพไม่ค่อยชัดเจน คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นแก๊งวิ่งราวทรัพย์ที่ตระเวนหาเหยื่อเวลากลางคืน พอสบโอกาสจะลงมือทันที คนร้ายน่าจะเห็นผู้ตายยืนโทรศัพท์อยู่ จึงเข้าไปใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ แต่คงมีการต่อสู้กันขึ้นคนร้ายใช้มือบีบคอผู้ตาย และเอามีดแทงลำคอจนเสียชีวิตและรีบหลบหนีไปโดยไม่ได้เอาทรัพย์สินไปแต่อย่างใด
พ.ต.ต.ประกาศิตกล่าวว่า
จากการสอบสวนรปภ.คอนโดฯ ตรงข้ามที่เกิดเหตุ ก็ให้การว่าเขาไม่เห็นเหตุการณ์ แต่หลังเกิดเหตุแล้วได้เดินไปหน้าธนาคารและสังเกตเห็นมีคนนอนอยู่หน้าตู้โทรศัพท์ คิดว่าเป็นคนเมาเหล้า จึงไปตามเพื่อนรปภ.มาดู พบว่าเป็นผู้หญิงถูกแทงเสียชีวิต
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
