แค้นรัก-เคืองวงเหล้า คลั่งยิง4ศพ-เจ็บระนาว ปิดล้อมไล่ล่าข้ามวัน

แล้วปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมนายจักรกฤษณ์ หรือพัน ศิวพรรังสรรค์ อายุ 40 ปี ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุคลุ้มคลั่งใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและพ่อตาแม่ยายเสียชีวิตรวม 4 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 แถมยังยิงตำรวจเลือดสาดไปอีก 2 ก็จบลงจนได้ หลังจากที่คนร้ายยอมวางอาวุธมอบตัวท่ามกลางวงล้อมของตำรวจที่กดดันนานข้ามวัน

ยังดีที่เหตุการณ์ไม่บานปลายไปกว่านี้!!

นายจักรกฤษณ์ สวมวิญญาณหนุ่มปืนคลั่ง ควงปืน 2 กระบอกกราดยิงเพื่อนบ้านที่ตั้งวงกินเหล้าส่งเสียงดังตายก่อน 3 ศพ แล้วจึงขับรถไปยิงอดีตพ่อตาแม่ยายที่กีดกันจนแม่ยายตายเป็นศพที่ 4 ด้วยแรงแค้นที่โดนกีดกันทำให้เมียหนีออกจากบ้าน ตำรวจเข้าไประงับเหตุเลยโดนยิงสวนบาดเจ็บไปด้วยก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนีเข้าป่าไปกบดาน

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 19 ก.ย.

ตำรวจสภ.อ.สอยดาว จ.จันทบุรี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่ห้องแถวชั้นเดียว ตั้งอยู่เลขที่ 150/5 หมู่ที่ 1 ต.ปะตง เขตเทศบาลตำบลทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี พ.ต.อ.ประการ ประจง ผกก.สภ.อ.สอยดาว พ.ต.ต.อำนาจ แก้วขาว สารวัตรเวรจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่าที่ห้องเช่าหลังนี้มีนายจินดา ประทุมทอง อายุ 25 ปี เป็นผู้เช่าอาศัย ภายในห้องพบศพนางผกามาส หรือ ดาว ผาสุข อายุ 22 ปี ภรรยาของนายจินดา นอนตายในสภาพถูกยิงด้วยปืนลูกซอง เสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซองและกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย พลเมืองดีนำตัวส่งร.พ.สอยดาว แต่ทนพิษบาดแแผลไม่ไหวเสียชีวิตลง 2 ราย คือนายจินดา เจ้าของห้องกับนายเฉลิมโชค เพชรเจริญ อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน ส่วนนายแจ๊คและนายโหน่งที่ถูกยิงด้วยรอดตายอย่างหวุดหวิด

พยานให้การอย่างระทึก ว่า

ก่อนเกิดเหตุที่บ้านของนายจินดา มีเพื่อนๆ มานั่งดื่มเหล้าเลี้ยงฉลองกัน มีการเปิดเพลงจากวิทยุในรถเก๋งเสียงดังอยู่หน้าบ้าน ทำให้นายจักรกฤษณ์ ซึ่งเกิดอาการเครียดสะสมเพราะภรรยาหนี ไม่พอใจคว้าปืนสั้น 9 ม.ม. กับปืนลูกซองยาว มายิงถล่มใส่วงเหล้าอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นมือปืนได้ขับรถปิกอัพ หลบหนีไปทางบ้านพ่อตาแม่ยายที่บ้านไผ่ล้อม เขตรอยต่อต.ปะตงกับต.ทุ่งขนาน เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป เพราะนายจักรกฤษณ์ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงนายจำเนียร คำพีระ อายุ 58 ปี อดีตพ่อตาได้รับบาดเจ็บสาหัส และจ่อยิงนางสายบัว คำพีระ อดีตแม่ยายเสียชีวิตไปอีกราย

รวมงานนี้มีคนตายถึง 4 ศพบาดเจ็บอีกอื้อ

ความบ้าคลั่งของ "จักรกฤษณ์" ยังไม่จบเพียงแค่นี้ จังหวะนั้นด.ต.วาเรศ ครองชน ผบ.หมู่สภ.ต.สะตอน และ ส.ต.ท.นนทวัฒน์ สายยศ ตำรวจโรงพักเดียวกัน ได้พยายามเข้าจับกุมนายจักรกฤษณ์ที่ถือปืน 2 กระบอกอยู่ในมือ เลยถูกนายจักรกฤษณ์ ยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ หลังจากนั้นคนร้ายจึงหลบเข้าไปซ่อนตัวในไร่มันสำปะหลังข้างทางในเขตอ.สอยดาว ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ที่ได้แต่ปิดล้อมไว้ไม่กล้าผลีผลามบุกเข้าไป สุดท้ายจึงต้องวิทยุขอกำลังตชด. 11 อ.มะขาม และทหารนาวิกโยธิน เกือบ 200 นายและสุนัขสงครามมาดมกลิ่นล่าตัวคนร้าย แต่ทว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นตอนกลางคืน เจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าทำอะไรมาก จึงได้แต่ปิดล้อมพื้นที่เอาไว้ ซึ่งการตามล่านายจักรกฤษณ์เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะทราบมาว่าหมอนี่ยิงปืนแม่นชนิดหาตัวจับยาก

เหตุการณ์ล่วงเลยไปจนถึงตอนตี 5 ของวันถัดไป

ก็เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นอีกจนได้ เมื่อนายจักรกฤษณ์ใช้อาวุธปืนจี้นายดำ ชาวบ้านย่านใกล้เคียงขณะขับรถกระบะผ่านมาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองขอมอบตัวกับตำรวจเพราะกลัวว่าจะถูกจับตาย

ห้วงนาทีนั้นเป็นภาพสุดระทึก เพราะนายจักรกฤษณ์ถือปืนจี้ตัวประกันไว้อย่างน่าเสียวไส้

โดยนายจักรกฤษณ์ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามตัวพี่สาวมาพบ เพื่อเป็นการอุ่นใจในการเข้ามอบตัว จนกระทั่งตอนสายเจ้าหน้าที่จึงนำตัวพี่สาวของนายจักรกฤษณ์มาช่วยเจรจาอยู่พักใหญ่ กระทั่งนายจักรกฤษณ์ยอมวางอาวุธปืนและปล่อยตัวประกันไปในที่สุด

ทุกอย่างจบลงอย่างน่าเสียวไส้

จากการสอบสวนนายจักรกฤษณ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่า สาเหตุที่ก่อเหตุดังกล่าวเพราะเครียดมาก เพราะข้างบ้านตั้งวงดื่มสุรา เปิดเพลงเสียงดังหลายครั้งแล้ว คราวนี้เกิดทะเลาะกันจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ จากนั้นขับรถไปบ้านพ่อตาหวังจะไปหาภรรยา แต่ไม่พบ จึงยิงพ่อตาบาดเจ็บและยิงแม่ยายเสียชีวิต เมื่อพบตำรวจจะเข้ามาจับจึงยิงปืนใส่บาดเจ็บไปอีก 2 นาย ก่อนจะหนีเข้าไปหลบซ่อนในไร่มันสำปะหลังและถูกจับกุมได้

สำหรับนายจักรกฤษณ์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืน เป็นสมาชิกชมรมยิงปืนจันทบุรี

มีความรู้เรื่องอาวุธปืนเป็นอย่างดี มีอาวุธไว้ในครอบครองหลายกระบอก ส่วนปืนที่นำมาก่อเหตุเป็นปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. และลูกซองยาวเบอร์ 12 ที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

สำหรับอาการผู้บาดเจ็บทุกรายพ้นขีดอันตราย

 ส.ต.ท.นนทวัฒน์ กับด.ต.วาเรศ ซึ่งถูกยิงแพทย์ทำการผ่าหัวกระสุนออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนเพื่อนๆ ของนายจินดาที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายรายแพทย์ก็ช่วยชีวิตไว้ได้เช่นกัน

ตายเจ็บเพราะอารมณ์คนแท้ๆ