พฤติกรรมของวัยรุ่นที่นำสารฟลูออเรสเซนต์มาเป็นส่วนผสมในการต้มใบกระท่อมตามสูตรสี่คูณร้อยนั้น พูดแบบไม่ต้องพลิกตำราได้เลยว่า สารดังกล่าวมีพิษต่อร่างกายแน่นอน แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่มีใครทดลอง และเป็นจริยธรรมของแพทย์ด้วยว่าไม่มีแพทย์คนไหนที่จะทดลองเรื่องนี้ด้วย สารนี้ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีใดๆ ยิ่งถ้านำมาผสมโน่นผสมนี่แล้ว บอกว่าเพิ่มกำลังเพิ่มรสชาตินั้น ถือเป็นเรื่องที่สิ้นคิด
“สารชนิดนี้เมื่อโดนบาดแผลของเรา หรือเราโดนเศษแก้วจากหลอดไฟที่มีสารชนิดนี้บาด จะเป็นบาดแผลที่รักษาได้ยากมาก ในทำนองเดียวกัน หากเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร และหากมีแผลอยู่แล้วปฏิกิริยาอย่างนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน อาจจะถึงตายได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งคนไม่น่าจะคิดแผลงๆ นำไปผสมดื่มได้ถึงขนาดนี้” นพ.นพพร กล่าว
ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 กล่าวว่า
สำหรับพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ยังไม่พบการนำเอาสารฟลูออเรสเซนต์ในหลอดไฟมาเป็นส่วนผสมในสารเสพติดใบกระท่อม ที่นำมาต้มปรุงเป็นสูตรสี่คูณร้อยในกลุ่มวัยรุ่นแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าในพื้นที่เองมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดประเภทสี่คูณร้อยมากเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มวัยรุ่นถูกชักจูงเข้าร่วมขบวนการในการก่อเหตุได้ง่าย และส่วนใหญ่วัยรุ่นจะใช้ยากันยุงและกัมม็อกโซนเป็นส่วนผสม
"ผมเพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนเช่นกันว่า มีการนำเอาสารฟลูออเรสเซนต์ผสมในยาเสพติดประเภทดังกล่าวด้วย จากการวิเคราะห์ต้องยอมรับว่าหากวัยรุ่นนำเอาสารชนิดดังกล่าวมาผสมจริง เชื่อแน่ว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด เนื่องจากสารฟลูออเรสเซนต์ในหลอดไฟ รวมถึงสารในยากันยุงและกัมม็อกโซน มีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งคือจะเป็นตัวเร่งให้สารเสพติดเข้าสู่กระแสเลือดและเม็ดเลือดได้เร็วขึ้น จนส่งผลให้ผู้เสพเกิดอาการมึนเมาได้ในไม่ช้า" นายวิตถวัลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากปัญหาวัยรุ่นเสพยาเสพติดสูตรใหม่แล้ว กลุ่มนักเรียนนักศึกษาหญิงใน จ.นครศรีธรรมราช ส่วนหนึ่งนิยมแฟชั่นไม่สวมกางเกงชั้นใน และทำไฮไลท์ขนอวัยวะเพศด้วย
นายศักดิ์ (สงวนชื่อจริง) ปลัดอาวุโสอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ ซึ่งมีภูมิลำเนาในนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะที่กำลังเดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปทำงานที่ จ.กระบี่ พร้อมกับข้าราชการระดับหัวหน้าส่วน 3 คน ระหว่างที่ขับรถนั้นพบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนน มีนักเรียนหญิง 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหมดสติอยู่จึงหยุดรถช่วยเหลือ