ตำรวจปฏิเสธ สนธิ ขอเลื่อน - จ่อหมายจับหลังหมายเรียกครั้งที่ 2
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2549 12:43 น.
สนธิ ส่งทนายพบพนักงานสอบสวน กองปราบฯ ยื่นหนังสือขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ เพราะติดภารกิจปราศรัยต่างจังหวัด พร้อมมอบหลักฐานคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้การกองปราบฯ ปฏิเสธ ยืนยันจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาเจอหมายจับทันที
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้มอบอำนาจให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายสนธิ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
นายสุวัตร กล่าวภายหลังยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเป็นเวลาที่กระชั้นชิด ซึ่งนายสนธิติดภารกิจปราศรัยที่ จ.สระแก้ว ยังมารับทราบข้อกล่าวหาไม่ได้ แต่ได้ทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมกันนี้ยังได้นำหลักฐานแผ่นวีซีดีคำให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งคำถอดเทปคำต่อคำซึ่งพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรมายื่นต่อพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังได้นำคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และพจนานุกรมคำว่า ดูหมิ่น ให้กับพนักงานสอบสวนด้วย และยังได้ส่งคำแถลงของหนังสือพิมพ์คมชัดลึกทั้ง 2 ฉบับ รวมทั้งอ้างพยานบุคคลอีก 9 ลำดับ เพื่อประกอบการสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนควรต้องทำการสอบสวนพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาบ้าง
นายสุวัตร กล่าวว่า การยื่นหนังสือและพยานหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนครั้งนี้ นายสนธิได้ขอเลื่อนการเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเป็นภายในวันที่ 17 พ.ค.49 แต่ พล.ต.ต.วินัย ได้ตอบว่าคงอนุญาตให้ไม่ได้ หากไม่มาพบในวันนี้ก็จะออกหมายเรียกอีกครั้งภายใน 7 วัน และถ้ายังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาอีก พนักงานสอบสวนจะออกหมายจับทันที ซึ่งตนก็ได้ตอบไปว่าเป็นสิทธิ์ของพนักงานสอบสวน แต่ทางตนก็ยืนยันเหตุผลว่าคงมาไม่ได้เพราะหมายเรียกที่ออกมานั้นกระชั้นชิดมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ในดคีนี้ นายสุวัตร กล่าวว่า ในทางคดีนั้นไม่หนักใจเลย แต่หนักใจเรื่องกระบวนการยุติธรรมมากกว่า เพราะพนักงานสอบสวนเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ควรจะต้องพิจารณาสำนวนให้ถี่ถ้วนว่าถ้อยคำนั้นหมิ่นหรือไม่ หากไม่หมิ่นก็จะมีดุลพินิจเป็นอย่างไรนั้นก็น่าจะทำได้ แต่การพยายามเร่งรัดคดีเช่นนี้เป็นการเร่งรัดเร็วเกินปกติ เพราะตนทำคดีมามากไม่เคยเจอคดีไหนที่ออกหมายเรียกครั้งแรกให้เวลาแค่ 7 วัน และขอเลื่อนไม่ได้ บางคดีนั้นยังให้เวลาถึง 1 เดือน นอกจากนี้ ตำรวจยังออกข่าวไปตลอดเวลาว่าไม่มาจะออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าหากเมื่อใดที่ตำรวจออกหมายจับนายสนธิ และนายสนธิต้องมาที่นี่ เชื่อว่าพื้นที่ของกองปราบฯ คงไม่เพียงพอที่จะรองรับคนที่จะแห่มาที่นี่อย่างแน่นอน และตรงนั้นจะเป็นเหตุการณ์ที่บานปลายมากขึ้น ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยพูดว่าอยากจะสมานฉันท์ นี่หรือคือการกระทำที่สมานฉันท์
จะสังเกตว่า คดีที่ฝ่ายพันธมิตรฯ แจ้งความดำเนินคดีไว้นั้นยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็นคดีปาอุจจาระหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ปาระเบิดหน้าออฟฟิศผู้จัดการ หรือระเบิดที่สวนลุมฯ และคดีที่นายกฯ พูดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ไม่มีอะไรคืบหน้า แต่คดีที่ฝ่ายตรงข้าม แจ้งความดำเนินคดีของฝ่ายพันธมิตรฯ โดนเช็กบิลทุกเรื่อง ที่ผ่านมาเคยมีตำรวจไปถึงเชียงรายกล่าวหาว่าคุณสนธิบุกรุกป่าสงวนทั้งที่ไม่มีชื่อคุณสนธิเลย และคดีของนายกฯ ที่แจ้งความคุณสนธิมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และเวลานายกฯ ทักษิณ ไปต่างประเทศชอบประชุมหรือสั่งการทางไกลอยู่เสมอ ทั้งนี้ ผมอยากให้ตำรวจทำเหมือนกันในทุกคดี เพื่อให้เป็นสแตนดาร์ดเดียวกัน ไม่ใช่ดับเบิล สแตนดาร์ด นายสุวัตร กล่าว