ทุกขลาภ เก็บเงินได้กลับถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์

พนักงานเก็บขยะเทศบาลเมืองพังงาโวย เก็บเงินได้ 2,000 บาทข้างกองขยะ กลับถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ หลังตำรวจ ตม.ติดต่อขอรับคืน ระบุทำเงินหล่นระหว่างซื้อสุราใกล้ที่พบเงิน แต่หาย 2 หมื่นบาท หาว่าอมเงินส่วนที่เหลือ เจ้าตัวยันบริสุทธิ์ใจเพราะเก็บได้ก็บอกคนอื่น ด้านรอง ผกก.ชี้ดำเนินคดีเพราะถือเป็นทรัพย์ที่อยู่ในขณะเจ้าของติดตามคืน

คดีทุกขลาภรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 กันยายน นายสมพร จันตรี หรือแมค อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/11 หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา พร้อมญาติๆ 3 คน ได้เข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

นายสมพร เล่าว่า ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะของเทศบาลเมืองพังงา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติงานตระเวนเก็บขยะที่ถนนเพชรเกษม ภายในเขตเทศบาลเมืองตามปกติ พร้อมเพื่อนอีก 2 คน คือ นายสมพงค์ อรรถศรี และนายธวัช นิจจำรูญ พอมาถึงบริเวณโค้งอู่เรือ เมื่อยกถังขยะขึ้นเทใส่รถเรียบร้อยแล้วก็พบธนบัตรชนิด 1,000 บาทหล่นอยู่ ก็รีบคว้าขึ้นมาดู พบว่า ธนบัตรติดกันอยู่ 2 ใบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจึงบอกเพื่อนร่วมงาน โดยตั้งใจว่าหลังเลิกงานจะเอาไปให้สถานีวิทยุประกาศหาเจ้าของ

จากนั้นก็ทำงานต่อไปตามปกติ กระทั่งมีเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองพังงา โทรศัพท์มาสอบถามว่าเก็บเงินได้ที่บริเวณดังกล่าวใช่หรือไม่ พร้อมกับให้รีบกลับมาที่เทศบาลเมืองพังงาเพราะเจ้าของเงินมารอรับคืน แต่เนื่องจากทำงานยังไม่เสร็จจึงแจ้งกลับไปว่า ให้รอประมาณ 1 ชั่วโมง

เมื่อเดินทางไปพบ มีตำรวจ สภ.อ.เมืองพังงา 3 นาย โดยมี ร.ต.อ.สังวร แพรเงิน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา แจ้งว่าเป็นเจ้าของเงิน จึงคืนเงินที่เก็บได้ 2,000 บาทให้ แต่ ร.ต.อ.สังวร ระบุว่าเงินที่ทำหล่นหายมี 2 หมื่นบาท ไม่ใช่ 2,000 บาท แต่ตนยืนยันว่าเก็บได้แค่นั้น จนเกิดการถกเถียงกันขึ้น

ต่อมา ร.ต.ท.คะแนน สมรักษ์ ร้อยเวร ได้เรียกให้ขึ้นรถเพื่อไปสอบสวนข้อเท็จจริงต่อที่ สภ.อ.เมืองพังงา แต่ระหว่างทางได้พาไปชี้จุดเกิดเหตุและบันทึกภาพ จากนั้นก็นำตัวมาสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นก็ให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาว่าลักทรัพย์ แล้วปล่อยตัวกลับบ้าน พร้อมบอกให้ไปสู้กันในชั้นศาล

"ผมตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร สรุปว่าผมเก็บเงินได้ 2,000 บาท ตั้งใจจะนำไปคืนแต่กลับถูกดำเนินคดี กลายเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ จึงมาพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม" นายสมพร กล่าว

พ.ต.ท.สวงษ์ ปิ่นนิล รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองพังงา กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์แก่นายสมพรจริงพร้อมกับปล่อยตัวไป เนื่องจากวันเวลาเกิดเหตุมีพยานเห็นและบอกว่านายสมพรเก็บเงินได้ที่บริเวนดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเงินจำนวนเท่าใด เมื่อเจ้าทุกข์ยืนยันว่า 2 หมื่นบาท แต่นายสมพรบอกว่าเก็บได้แค่ 2,000 บาท จึงหาข้อยุติไม่ได้ โดยเจ้าทุกข์บอกว่าให้เอาเงินส่วนที่ขาดไป 1.8 หมื่นบาทมาคืนแล้วจะไม่เอาความ แต่นายสมพรก็ยืนยันว่าไม่ได้เอาไปและไม่มีเงินคืนให้ พนักงานสอบสวนจึงต้องแจ้งข้อหาลักทรัพย์แก่นายสมพรไว้ก่อน เพราะถือว่าเป็นทรัพย์ที่อยู่ในขณะเจ้าของติดตามคืน

พ.ต.ท.สวงษ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน ร.ต.อ.สังวร เจ้าของเงิน ระบุว่า วันเกิดเหตุมาซื้อสุราที่ร้านใกล้กับบริเวณดังกล่าว เพื่อไปงานเลี้ยงส่งในโอกาสที่ นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ พังงา ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถยนต์แล้วขับออกมาทันทีโดยไม่รู้ว่าทำเงินตกหล่น กระทั่งต่อมา พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.พังงา ไปรับประทานบะหมี่ภายในร้านใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งมีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีตำรวจคนหนึ่งทำเงินหล่นไว้ และคนเก็บขยะของเทศบาลเมืองพังงาเป็นคนเก็บได้ เมื่อ พ.ต.อ.สุทัศน์ สอบถามจึงรู้ว่าคนที่ทำเงินหล่นไว้ คือ ร.ต.อ.สังวร ซึ่งรู้จักกันดี จึงโทรไปสอบถาม

ด้าน พ.ต.อ.สุทัศน์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องที่ร้านก๋วยเตี๋ยวว่ามีคนเก็บเงินได้ แต่ไม่ทราบจำนวน จึงโทรศัพท์สอบถาม ร.ต.อ.สังวร จนทราบว่าเบิกเงินมา 4 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายซื้อเครื่องดื่มไปร่วมงานเลี้ยงส่งผู้ว่าฯ ในนามตำรวจภูธรจังหวัด แต่ซื้อสินค้าไปประมาณ 2 หมื่นบาท ส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นบาททำหล่นหาย จึงเล่าเรื่องให้ทราบ กระทั่งมีการติดต่อให้ไปรับเงินคืนที่คนเก็บขยะ โดยประสานผ่านไปทาง นายอภิเดช หิโตปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพังงา ให้ช่วยติดตามเงินคืน แต่เมื่อได้คืนไม่ครบจึงมีการแจ้งความดำเนินคดีกันขึ้น