จำคุก 25ปี ช่างรถไฟใต้ดินฆ่าหั่นอวัยวะเพศเพื่อน พนง.

จำคุก 25ปี ช่างรถไฟใต้ดินฆ่าหั่นอวัยวะเพศเพื่อน


วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ และนายอำพล ทองใบ โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายกฤษฎาพร หรือประเสริฐ หรือเก่ง บรรพชาติ อายุ 31 ปี ช่างเทคนิคควบคุม ระบบอาคารบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สารธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
      
ตามฟ้องของโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.50 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ 12 ม.ค.50 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด

จำเลยได้พาอาวุธมีดพร้ายาว 1 ฟุต ที่ห้องควบคุมงานระบบอาคาร ชั้น 1 อาคารบริหารบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร จำเลยได้ใช้อาวุธมีดฟันศีรษะนายพิชัย ทองใบ หลายครั้ง ปาดที่บริเวณลำคอและเฉือนอวัยวะเพศ โดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้นายพิชัย ทองใบ ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวงห้วยขวาง เขต ห้วยขวาง และแขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,371

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่า พยานโจทก์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าช่วงเวลาดังกล่าวมี จำเลยซึ่งเป็นพนักงานในแผนกเดียวกัน ใช้บัตรคีย์การ์ด แตะที่เครื่องบันทึกการเข้าออกห้องควบคุมดังกล่


ซึ่งเป็นห้องที่สามารถเข้าไปได้เฉพาะผู้ที่มีบัตรคีย์การ์ดเท่านั้น โดยผู้ที่สามารถเข้าไปในห้องได้มีเพียง 5 คน รวมทั้งผู้ตายและจำเลย ซึ่งในขณะนั้นพบว่ามีผู้ตายอยู่ในห้องควบคุม และต่อมาจำเลยได้เข้าไปในห้องเพียง 2 คน ต่อมาพยานมีภาพบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่บันทึกภาพขณะจำเลยขับรถเข้าไปจอดในบริษัท และขับออกไปหลังจากเกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 16 ม.ค. 50 จำเลยได้เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตาย พร้อมนำชี้ที่เกิดเหตุแสดงท่าทางประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียด เชื่อว่าจำเลยให้การรับสารภาพไปตามจริง ขณะที่พยานโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน
      
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า

จำเลยใช้อาวุธมีดพร้ายาว 1 ฟุต ฟันที่ศีรษะลำคอ และตัดอวัยวะเพศ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ส่วนที่จำเลยอ้างว่าเหตุที่ลงมือฆ่านั้นเกิดจากการบันดาลโทสะที่ผู้ตายพูดจาเยาะเย้ยพาดพิงถึงมารดาจำเลย จึงได้ใช้มีดพร้าทำร้ายร่างกายผู้ตาย นั้นเห็นว่า เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ของจำเลย และจากคำเบิกความของพยานโจทก์ทราบว่าผู้ตายและจำเลยต่างมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ จึงอาจเป็นความโกรธแค้นที่สะสมกันมา ไม่ได้เป็นการบันดาลโทสะก็ได้
      
จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

และความผิดฐานพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษปรับ 100 บาท อีกทั้งคำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 25 ปี และปรับ 50 บาท พร้อมทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม เป็นค่าปลงศพ ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ทำมาหาได้ และค่าขาดไร้อุปการะ รวมเป็นเงินจำนวน 990,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี
      
ด้านนายอำพล ทองใบ บิดาของนายพิชัย ผู้ตาย เปิดเผยว่า

พอใจกับคำพิพากษาของศาล ตนรู้สึกเห็นใจและไม่รู้สึกโกรธแค้นจำเลยแล้ว เพราะปกติตนเป็นคนชอบทำบุญ ส่วนเงินค่าสินไหมทดแทนที่ศาลมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้นั้นถือว่าพอสมควร เป็นจำนวนที่ไม่สูงเกินไป เพราะตนเป็นฝ่ายได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ลูกชายก็เป็นบุตรคนโต ถือเป็นความหวังสูงสุดของครอบครัว

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์