กินเห็ดพิษหาม 5 พระ-ชีวัดดังปักธงชัยส่งร.พ.

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระสงฆ์ แม่ชี และชีพราหมณ์ ที่วัดปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา รวม 5 ราย ประกอบด้วย พระสุวิทย์ อ่อนฉิมพลี อายุ 34 ปี, แม่ชีปรัศนีย์ เลิศอรุณรัตน์ อายุ 40 ปี, แม่ชีเล็ก ปองสูงเนิน อายุ 73 ปี, ชีพราหมณ์ละม่อม เจริญสุข อายุ 50 ปี, และชีพราหมณ์นาถยา แพทย์กุล อายุ 53 ปี ถูกหามส่งร.พ.ปักธงชัย อ.ปักธงชัย เนื่องจากทั้งหมดมีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียนอย่างรุนแรง แพทย์ทำการล้างท้องและให้น้ำเกลือ โดยอาการของพระสงฆ์และแม่ชีดีขึ้น แต่ต้องนอนรักษารอดูอาการสักระยะ ส่วนชีพราหมณ์ละม่อมอาการยังหนัก เนื่องจากมีอาการตับอักเสบ แพทย์จึงส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา

จากการสอบถามแม่ชีปรัศนีย์เล่าว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ชีพราหมณ์ละม่อมไปเก็บเห็ดมาจากป่าหลังวัดปอแดง จะนำมาทำอาหารถวายพระและให้แม่ชี
เห็ดดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเห็ดปลวก แต่มีสีขาวสวยงามกว่า โดยก่อนจะปรุงอาหาร พระครูญาณกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดปอแดงเตือนชีพราหมณ์ละม่อมแล้วว่าอย่านำไปปรุงอาหาร เพราะไม่รู้จักว่าเป็นเห็ดอะไร เกรงว่าจะเป็นเห็ดพิษ แต่ชีพราหมณ์ละม่อมเสียดาย จึงนำไปแกง ก่อนจะนำไปถวายหลวงปู่สมบุญ ปริปุณณสีโล อายุ 73 ปี ประธานสงฆ์วัดปอแดง แต่หลวงปู่สมบุญไม่ฉัน

ก่อนนำให้ตนและแม่ชีเล็ก รวมทั้งชีพราหมณ์ละม่อม และชีพราหมณ์นาถยาก็กินแกงเห็ดด้วยเช่นกัน ต่อมาทั้งหมดมีอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียนอย่างรุนแรงพร้อมกัน จึงถูกนำตัวส่งร.พ.ปักธงชัย โดยเฉพาะชีพราหมณ์ละม่อมผู้ปรุงอาหารมีอาการหนักกว่าเพื่อน ต้องส่งไปร.พ.มหาราชนครราชสีมา เนื่องจากตับอักเสบ หลังจากแพทย์ล้างท้อง ให้ยามากิน รวมทั้งให้น้ำเกลือ รู้สึกดีขึ้น แต่ยังมีอาการอ่อนเพลีย คงต้องพักรักษาตัวต่ออีกระยะ ส่วนชีพราหมณ์นาถยา แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว

ด้านน.พ.สำเริง แหยงกระโทก นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครราชสีมา กล่าวว่า

รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว กรณีนี้มักพบช่วงหน้าฝนในหลายพื้นที่ มีประชาชนไปเก็บเห็ดป่ามากิน หรือบางคนเก็บมาขาย เห็ดป่าที่มีพิษที่เข้าใจผิดนำมากินมีหลายชนิด เช่น เห็ดกระโดงตีนต่ำ หรือเห็ดไข่ห่าน และเห็ดขี้วัว เป็นต้น กรณีนี้ทราบจากผู้ป่วยว่าดอกเห็ดที่เก็บมาคล้ายเห็ดปลวก แต่ดอกเห็ดสีใส เนื้อไม่เหนียวเหมือนเห็ดปลวก เห็ดลักษณะนี้มีพิษ และพิษไม่สามารถละลายในน้ำและในความร้อน หลังจากกินไปภายในระยะเวลา 6-12 ชั่วโมง จะทำให้มีอาการระบบทางเดินอาหาร เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย จากนั้นอาการจะทุเลาลงระยะหนึ่ง ต่อมาจะพัฒนาไปสู่การทำลายตับ และอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลือง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ รุนแรงและเสียชีวิตได้ ภายใน 6-12 วัน กรณีของพระและแม่ชีที่วัดปอแดง มีผู้ป่วย 2 ราย ส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา คือชีพราหมณ์ละม่อมและพระสุวิทย์ ขณะนี้แพทย์กำลังดูแลอาการอย่างใกล้ชิด

น.พ.สำเริง กล่าวต่อว่า ประชาชนทั่วไปสามารถดู หรือสังเกตลักษณะของเห็ดที่ไม่ควรเก็บมาบริโภค อาทิ

เห็ดที่เป็นสีน้ำตาล มีปลอกหุ้มโคน มีโคนอวบใหญ่ มีหมวกเห็ดเป็นรูๆ แทนที่จะเป็นช่องๆ คล้ายครีบปลา เห็ดที่มีลักษณะคล้ายสมอง หรืออานม้า บางชนิดต้มแล้วกินได้ แต่บางชนิดมีพิษร้ายแรง เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว เห็ดที่ขึ้นใกล้มูลสัตว์ เห็ดที่มีหมวกเห็ดสีขาว เห็ดที่มีวงแหวนใต้หมวก และเห็ดที่มีปุ่มปม อีกทั้งสิ่งที่ต้องระวังในการกินเห็ด คือถ้ากินเห็ดแล้ว มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียให้รีบไปพบแพทย์ทันที