เหยื่อรับน้องลุยไฟโคม่าต้องผ่าตัดสมองพ่อโร่ร้องกองปราบ

เหยื่อรับน้องโหดอาการยังแย่ นอนหมดสติไม่รู้ตัวในห้องไอซียู


แพทย์ผ่าตัดสมองยื้อชีวิต หลังอาการทรุดหนัก แม่ครวญหากไม่ผ่าตัดลูกไม่รอดแน่ เผยรอปาฏิหาริย์ให้ลูกเหมือนเดิม ขณะที่พ่อเหยื่อแจ้งความกองปราบฯ แจ้งความเอาผิด ยันมีรายชื่อรุ่นพี่ฉาวทุกคน หลังโรงเรียนมอบข้อมูลให้
 

ความคืบหน้ากลุ่มนักศึกษารุ่นพี่โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งใน กทม. ชักชวนรุ่นน้อง ปวช.ปี 1 จำนวน 3 คน ไปรับน้องที่ชายทะเล อ.ทับสะแก จ.ประจวบศีรีขันธ์

โดยกลุ่มรุ่นพี่บังคับรุ่นน้องด้วยการจับโยนบก และให้กลิ้งตัวใส่กองไฟที่กำลังจะมอด ทำให้นายภาณุ บูชาตระกูล อายุ 15 ปี และนายนัด อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายนิพนธ์ โตสิงห์ อายุ 17 ปี อาการโคม่า ขณะนี้ทั้งสามคนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลชลประทาน ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลชลประทานพบว่า วันนี้แพทย์ได้ย้ายนายภาณุ นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกายไปรักษาตัวที่ตึกพิเศษ ชั้น 5 ห้อง 522 และไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าเยี่ยม เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยพักผ่อน ส่วนเรื่องคดีความได้รับการเปิดเผยจากพี่สาวผู้ป่วยว่า ครอบครัวจะเข้าแจ้งความในเร็ววันนี้


ขณะที่นายนิพนธ์ นักศึกษารุ่นน้องอีกคนหนึ่งยังคงนอนหมดสติอยู่ในห้องไอซียู


เนื่องจากอาการโคม่า โดยแพทย์ระบุว่านายนิพนธ์มีบาดแผลฉกรรจ์ที่เกิดจากไฟไหม้หลายแห่ง อีกทั้งศีรษะกระทบกระเทือน ทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นางบุญส่ง มารดาของนายนิพนธ์ กล่าวว่า อาการของลูกชายถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดสมองในวันนี้ (19 ก.ย.) ก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินเช้าวันพรุ่งนี้ หลังการผ่าตัดลูกชายจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่นั้น คงต้องรอปาฏิหาริย์ 


"หมอบอกว่าอาการของลูกชายโคม่า หากไม่ได้ผ่าตัดสมองจะทำให้อาการทรุดลง และอาจจะไม่สามารถรักษาหรือช่วยเหลืออะไรได้ทัน ทำให้ครอบครัวตัดสินใจให้แพทย์ของโรงพยาบาลทำการผ่าตัดสมอง เพื่อช่วยเหลือชีวิตทันทีในบ่ายนี้" นางบุญส่ง กล่าว
 

"ส่วนการดำเนินคดี ขณะนี้พยายามหาข้อมูล ทำให้ทราบว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการรับน้องตั้งแต่คืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ เจ้าของรีสอร์ทที่กลุ่มนักเรียนไปเช่าที่พัก บอกว่า เห็นลูกชายถูกกลุ่มรุ่นพี่ช่วยกันประคองปีกออกมาจากที่พักในสภาพมือไม้หงิกและเกร็ง ในปากยังมีช้อนคาอยู่ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกัดลิ้น ก่อนที่รุ่นพี่จะตัดสินใจนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังทราบว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายนอนหมดสติอยู่ในห้องพัก แต่พวกรุ่นพี่บอกว่าเมาให้นอนพักไปก่อน" นางบุญส่ง  กล่าว
 

วันเดียวกันเวลา 14.00 น. ที่กองปราบปราม

นายสมนึก โตสิงห์ อายุ 56 ปี และนางสุทิน ไม้จีน บิดาและมารดาบุญธรรม นายนิพนธ์ เข้าพบ พ.ต.ท.สมบัติ มาลัย พงส. (สบ 3) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้กองปราบปรามช่วยสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่ทำร้ายร่างกายบุตรชายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นางสุทิน กล่าวให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า หลังเกิดเรื่องพยายามสอบถามเพื่อนที่ไปกับลูกชาย แต่ไม่มีใครยอมบอก เมื่อแพทย์บอกว่าลูกชายอาการสาหัสอาจไม่รอด ซึ่งขณะนั้นเพื่อนลูกชายคนหนึ่งหลุดปากมาว่าจะเอาเรื่องกับรุ่นพี่ จากนั้นจึงไปที่โรงเรียนเพื่อให้ผู้บริหารช่วยติดตามรุ่นพี่มาสอบถาม แต่ยังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งได้คุยกับเจ้าของรีสอร์ทจึงทราบเรื่องทั้งหมด


“ดิฉันได้สอบถามไปทางโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องการรับน้อง ซึ่งทางโรงเรียนชี้แจงมาว่าไม่ได้มีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ แต่มีการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศให้นักเรียนใหม่ และทำบุญเท่านั้น จึงไม่สามารถรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือมอบรายชื่อนักเรียนรุ่นพี่ที่ร่วมเดินทางไปรับน้องทั้งหมด เพื่อใช้ประกอบหลักฐานแจ้งความ” มารดาบุญธรรมนายนิพนธ์ กล่าว


นางสุทิน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง

แต่มีปัญหาทะเลาะวิวาทถูกคู่อริใช้มีดฟันนิ้วนางซ้ายขาด แต่แพทย์ต่อนิ้วได้ จึงขอลาออกมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ และเพิ่งพาไปมอบตัวปฐมนิเทศ กระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายสำรวม พฤกษเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ผอ.กช.) กล่าวว่า  หลังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนทำหนังสือแจ้งกลับมายัง สช.ว่าไม่ได้จัดกิจกรรมรับน้อง ซึ่งรุ่นพี่และรุ่นน้องเดินทางไปกันเองตั้งแต่วันเสาร์ที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลนักเรียนที่บาดเจ็บแล้ว


"เมื่อทางโรงเรียนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากผู้ปกครองต้องการจะเอาเรื่องต้องไปแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการทำร้ายร่างกาย แต่ที่ผ่านมาได้กำชับกับทุกโรงเรียนให้เข้มงวดในการดูแลนักเรียนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อยู่แล้ว" นายสำรวม กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์