นอนพักฟื้นอยู่ที่ห้อง 521 ชั้น 5 โรงพยาบาลเดียวกัน ทราบชื่อคือนายนัด อายุ 16 ปี มีบาดแผลถูกไฟไหม้ที่ลำตัว แพทย์ให้นอนพักฟื้นเพื่อรักษาอาการ ส่วนชั้น 3 ห้อง 337 พบนายภาณุ อายุ 15 ปี อาการทั่วไปยังนอนซมด้วยความระบม เนื่องจากร่างกายมีบาดแผลถูกไฟไหม้ที่หน้าอกลงมาจนถึงหน้าท้องและขาทั้งสองข้าง ส่วนที่ใบหน้ายังโดนไฟไหม้จนเกรียม มีพ่อแม่รวมทั้งเพื่อนๆ นักศึกษาเฝ้าดูอาการด้วยความห่วงใย
สอบถามนายภาณุ หนึ่งในคนเจ็บ ให้การว่า ตนกับเพื่อนคือ นายนัด และนายอั้ม เรียนอยู่ที่เดียวกัน
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา โรงเรียนมีกีฬาสี หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬา มีรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วหลายคน พร้อมกับรุ่นพี่ที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันได้ชวนตน นายนัด และนายอั้ม พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ อีกประมาณ 40 คน ไปเที่ยวทะเลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยที่ไม่ต้องเสียค่ารถในการเดินทาง ตนกับเพื่อนเห็นว่าแข่งกีฬาสีเสร็จแล้วจึงร่วมเดินทางไปกับรุ่นพี่ทั้งหมด เพราะอยากไปพักผ่อน
กระทั่งคืนวันจันทร์ที่ 17 กันยายน เวลาประมาณ 02.00 น.
ปรากฏว่ารุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วได้จัดให้มีการเล่นรอบกองไฟ ตน นายนัด และนายอั้ม ถูกสั่งให้วิ่งที่ชายหาดพร้อมทั้งกระโดดเอาหัวทิ่มหาดทราย แต่ที่หนักที่สุดคือ สั่งให้พวกตนกระโดดเข้าไปในกองไฟที่เพิ่งมอด แต่ยังมีไฟอยู่ ก่อนสั่งให้กลิ้งบนกองไฟคนละ 2-3 รอบ จนพวกตนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังจากนั้นรุ่นพี่เห็นว่าอาการหนัก จึงรีบพาพวกตนส่งโรงพยาบาลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะถูกส่งตัวต่อมาที่ รพ.ชลประทาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพ่อแม่ของนายภาณุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับสถาบันอื่นอีก
จึงขอให้รุ่นพี่ที่ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย ผู้ปกครองของนักศึกษาที่บาดเจ็บรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุกับบุตรชาย มีอาจารย์ของสถาบันดังกล่าวเดินทางมาดูอาการ พร้อมรับปากว่าจะเรียกรุ่นพี่ทั้งหมดมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทราบว่าทางโรงเรียนได้จัดกีฬาสีประจำปีจริง แต่สถาบันไม่ได้จัดให้ไปเที่ยวทะเล แต่เด็กๆ ได้รับการชักชวนจากเพื่อนรุ่นพี่เดินทางไปเที่ยว กระทั่งมาเกิดเหตุ
ส่วนนักศึกษาที่มีอาการโคม่านั้น ล่าสุดพบว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
เนื่องจากถูกรุ่นพี่บังคับให้กระโดดเอาศีรษะโหม่งพื้นทรายชายหาด และมีบาดแผลจากการถูกไฟไหม้ประมาณ 20-30% มีรายงานว่า ก่อนนี้มีผู้ปกครองของเด็กรายหนึ่งมาแจ้งความที่ สภ.อ.เมืองนนทบุรี (สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์) แต่ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ