ก่อนเกิดเหตุเครื่องบินเดินทางออกจากกรุงเทพฯ มาตามปกติ เมื่อใกล้ถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ตนักบินก็ลดระดับการบินเหมือนปกติ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีอาการแกว่งของเครื่อง เมื่อเครื่องใกล้ถึงรันเวย์ก็ลดลง หลังจากนั้นเครื่องบินก็คล้ายว่าจะทะยานขึ้นอีก กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น มารู้สึกตัวอีกทีเหมือนกับเครื่องบินหักกลางลำจากแรงกระแทก ทำให้ผู้โดยสารบางคนถึงกับสลบและไม่สามารถหนีออกมาได้
"มันเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ได้มีการแจ้งเตือนใดๆ จากเจ้าหน้าที่ หลังเครื่องไถลออกนอกรันเวย์แล้ว ผมซึ่งนั่งอยู่ส่วนกลางเครื่องก็คลานออกมาจากประตูฉุกเฉินตามนักท่องเที่ยวฝรั่งและคนไทย โดยใช้เวลา 3-5 นาทีก็รอดตายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ได้เหมือนปาฏิหาริย์ และไปยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเครื่อง ซึ่งมีระยะห่างพอควร เนื่องจากกลัวเครื่องบินจะระเบิด สภาพเครื่องบินที่ผมเห็นในขณะนั้นถูกเพลิงไหม้จากส่วนหัวและลุกลามมายังส่วนกลางและส่วนท้ายเครื่อง" นายปริญญวิชญิ์ เล่าด้วยอาการที่ยังคงตื่นตกใจ
ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีหนุ่มน้อยนักล่าฝันของ "อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 4" อยู่ด้วย 1 คน คือ นายพิทยา ว่องวันดี อายุ 22 ปี สจ๊วตฝึกหัดของสายการบินวันทูโก
ที่เคยส่งวิดีโอเข้ามาคัดเลือก หรือออดิชั่น จนติด 1 ใน 50 นักล่าฝันด้วย น.ส.เยาวลักษณ์ ว่องวันดี พี่สาวของนายพิทยา กล่าวว่า หลังไม่ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายของเอเอฟ 4 แล้ว จากนั้นนายพิทยาก็สอบผ่านเข้าเป็นพนักงานบริการบนเครื่องบินของสายการบินวันทูโก จึงเริ่มเข้าไปฝึกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม กระทั่งวันที่ 18 สิงหาคม ก็ได้ขึ้นไปฝึกหัดปฏิบัติงานจริงบนเครื่องบินเป็นครั้งแรก กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้น จนนำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว โดยจะตั้งศพสวดพระอภิธรรม ที่วัดเทพลีลา ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน เป็นต้นไป
ขณะที่ นายวรวิทย์ ว่องวันดี พี่ชายฝาแฝดของนายพิทยา ซึ่งยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และกำลังกลับมาร่วมงานศพน้องชาย ได้เข้าไปโพสต์ข้อความลงในเวบไซต์พันทิปว่า
"ขอบคุณทุกๆ คนนะครับที่เข้ามา พิทยังอยู่กับวิทเสมอนะครับ ยังอยู่กับพวกเราทุกคน ขอบคุณทุกคนมากๆ ปล.พิท แฟนคลับแกเยอะแยะเลยนะ ได้ยินป่าว รักน้องชายคนนี้ที่สุด ยังไงก็กลับมานะ มาใช้ร่างเดียวกันก็ได้ ก็เราเกิดมาพร้อมกันนี่เนอะ"
ขณะที่ นายณรงค์ รัตนมณี อายุ 45 ปี ชาวบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้สนามบินประมาณ 10 เมตร กล่าวว่า
ตนกับเพื่อนบ้าน 4-5 คนที่มาหยุดหลบฝนที่บ้านของตน ได้ยินเสียงดังตึงอย่างแรงมาจากทางทิศเหนือของรันเวย์สนามบิน ซึ่งตนและเพื่อนบ้านมองเห็นในระยะ 200 เมตร ว่าเครื่องบินได้พุ่งชนเข้าชนเนินดินนอกรันเวย์ พร้อมกับมีกลุ่มควันสีขาวพ่นออกมาผสมกับละอองน้ำฝน จากนั้นก็มีไฟลุกท่วมเครื่องบินแบบฉีดพ่นออกมาเป็นระยะๆ
สักพักตนก็มองเห็นชาวต่างชาติ 2 คนวิ่งออกมาจากเครื่องและมีลักษณะเหมือนคนไทย บ้างก็คลานออกมาหยุดอยู่ห่างจากเครื่องประมาณ 20 เมตร ประมาณ 4-5 คน ตนกับเพื่อนๆ พยายามปีนรั้วเหล็กเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถปีนเข้าไปได้เพราะมีลวดหนามขึงไว้ข้างบนยอดรั้วอีก 3 เส้น ได้แต่ยืนมองภาพที่น่าเวทนา
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า จากนั้นอีก 20 นาทีต่อมาก็มีรถดับเพลิงวิ่งมา 2 คัน
คาดว่าน่าจะเป็นของสนามบิน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร พอมาถึงก็ยังไม่ได้ดับเพลิงในทันที คล้ายกับว่าจะช่างใจเกรงว่าเครื่องจะระเบิดขึ้น อีกราว 10 นาทีต่อมาจึงเริ่มดับไฟไปพร้อมกับมีคนคลานออกมาจากเครื่องทีละคนสองคน มีบางคนพยายามลากผู้อื่นออกมาด้วย ตนจึงปีนรั้วสนามบินเข้าไปช่วยเหลืออีกครั้ง แต่ก็ปีนไม้ได้ ได้แค่ทำใจยืนดู จนเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงจึงเห็นบรรดาหน่วยกู้ภัย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นที่ใดบ้าง วิ่งเข้ามาเต็มจุดเกิดเหตุ