สาวใจเด็ดถูกหนุ่มบุกข่มขืนฉวยโอกาสเผลอคว้ามีดแทงสาหัส

แต่สาวฮึดสู้ ฉวยจังหวะคนร้ายเผลอคว้ามีดปอกผลไม้แทงเจ็บสาหัส ยอมรับสารภาพ เลิกกับภรรยา 4-5 วัน นั่งซดเหล้าย้อมใจ เกิดอารมณ์เปลี่ยว บุกเข้าห้องหมายข่มขืนเหยื่อ แต่พลาดท่าถูกแทง

เหตุหญิงสาวถูกทำร้ายร้องขอความช่วยเหลือในห้องเช่า
 
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 17 กันยายน ตำรวจประจำศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุหญิงสาวถูกทำร้ายร้องขอความช่วยเหลือในห้องเช่า ซึ่งเป็นเกสเฮ้าท์ ชื่อ“ชลดา” ตั้งอยู่ริมถนน พื้นที่ ม.1 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ตำรวจสืบสวนสอบสวนประมาณ 5 นาย เดินทางไปตรวจสอบ
 

ในที่เกิดเหตุเป็นห้องชุด พบนางสาวหนึ่ง (นามสมมุติ )อายุ 25 ปี เจ้าของห้อง ซึ่งเป็นผู้เสียหายยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยใบหน้าบวมเป่ง เขียวช้ำไปทั่วร่างกาย

และภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหยดเลือดไหลเป็นทางยาวไปทางหลังบ้าน ทราบว่าเป็นหยดเลือดของคนร้าย ส่วนข้างเตียงนอนภายในห้องนอน พบกางเกงขาสั้นและกางเกงในของผู้ชาย เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทาของคนร้ายวางกองอยู่ ส่วนในกระเป๋ากางเกงขาสั้น พบกระเป๋าสตางค์สีดำ ภายในมีบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อนายอะหมาด สมัน อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.นราธิวาส

ขณะเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ตนนอนอยู่ในห้องเพียงคนเดียวและเผลอหลับไป และตกใจตื่นพบว่าได้มีชายลักษณะรูปร่างเล็กผิวดำ ผมรองทรงอายุประมาณ 30 ปี เข้ามาอยู่ในห้องและชกต่อยใบหน้าและหน้าท้องจนจุกเสียดไปทั้งร่าง แต่ตนเองยังมีสติจึงได้ถามคนร้ายว่าต้องการอะไร แต่คนร้ายไม่ยอมตอบพร้อมทั้งเข้ากอดหวังข่มขืน แต่ตนเองได้ดิ้นรนขัดขืน คนร้ายจึงได้ตบที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง จึงบอกคนร้ายว่ายอมแล้ว
 

เมื่อคนร้ายเห็นว่าตนเองยินยอม จึงได้ถอดเสื้อผ้า

ขณะที่คนร้ายกำลังเผลอถอดเสื้อผ้า ตนเองได้ฮึดสู้อีกครั้งโดยคว้ามีดปลายแหลมที่ไว้สำหรับปอกผลไม้ แทงไปที่หัวไหล่ด้านหลังของคนร้ายและเกิดการต่อสู้ ตนเองส่งเสียงร้องเสียงดังให้คนช่วยและใช้มีดแทงคนร้ายหลายครั้ง คนร้ายจึงได้วิ่งหลบหนีไปทั้งที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า จากนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจร่วมกับนายพิสิทธิ์ พรหมจันทร์ กำนันตำบลแม่น้ำและกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้ติดตามคนร้าย

และพบคนร้ายกำลังซ่อนตัวอยู่ในกระต๊อบร้างบนเขาบ้านแม่น้ำ จึงได้เข้าจับกุม ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าที่ราวนมซ้าย 1 แผล หัวไหล่ซ้าย 1 แผล หัวไหล่ซ้ายด้านหลัง 1 แผล ที่ฝ่ามือมีรอยมีดบาดอีก 3 แผล รวม 6 แผล อยู่ในสภาพอ่อนเพลีย เพราะเสียเลือดมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ป้อมตำรวจตำบลแม่น้ำ
 

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า

ได้ก่อเหตุเข้าไปทำร้ายนางสาวหนึ่งเพื่อหวังข่มขืน แต่ทางผู้เสียหายขัดขืน และสู้ไม่ได้เพราะมีอาวุธมีด จึงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยตนเองเป็นพนักงานในเรือนำเที่ยวแห่งหนึ่งที่เกาะสมุย และเพิ่งเลิกกับภรรยามาได้ 4-5 วัน ก่อนเกิดเหตุไปขอคืนดีกับภรรยา แต่ได้รับการปฎิเสธ จึงไปดื่มเหล้า

หลังจากดื่มเหล้าแล้วทำให้มีอารมณ์ทางเพศ จึงได้เข้าไปแอบมองที่เก็ตเฮ้าท์ดังกล่าว ประกอบกับเคยเห็นหน้านางสาวหนึ่ง มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยพูดคุยด้วย

จึงได้ปีนขึ้นไปบนห้องของนางสาวหนึ่ง และงัดประตูด้านหลังเข้าไปในห้องหวังข่มขืน แต่ถูกทำร้ายจึงได้หลบหนีออกมา ต่อมานางสาวหนึ่ง พร้อมกับญาติๆจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งเมื่อเห็นหน้าผู้ต้องหา นางสาวหนึ่ง ตรงเข้าไปตบที่ใบหน้าผู้ต้องหาอีกหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวออกไป โดยที่นายอะหมาด ได้ยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ นางสาวหนึ่งและญาติพี่น้องที่ได้ทำเรื่องดังกล่าวลงไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปส่งโรงพยาบาลเกาะสมุย เพราะสภาพร่างกายอ่อนเพลียจากการเสียเลือด ก่อนที่จะควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป