เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 16 ก.ย.
พ.ต.ท.ชาญณรงค์ สำราญใจ สารวัตรเวร สภ.อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนทางเข้าหมู่บ้านบุเสี้ยวคลองชัน หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบ
พบรถปิกอัพ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บน 183 กรุงเทพมหานคร
ชนต้นไม้ตกข้างทาง กระจกหน้ารถแตก กระจกประตูด้านขวามีรอยกระสุน 3 รู บนที่นั่งคนขับพบศพนายเกษม ไทยแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนยังไม่ทราบขนาดเข้าที่ลำคอและไหล่ทั้ง 2 ข้างกระสุนฝังใน เลือดสาดกระจายไปทั่วรถ นอกจากนี้พบนิ้วก้อยถูกยิงขาดตกอยู่บนเบาะ คาดว่าเป็นของผู้บาดเจ็บซึ่งชาวบ้านช่วยนำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีแล้ว ชื่อนางทองใบ กันเภา อายุ 49 ปี ภรรยานายเกษม กระสุนปืนถากขมับขวาและไหล่ขวา กับ น.ส.นลพรรณ กันเภา อายุ 18 ปี บุตรสาวนางทองใบ ถูกยิงนิ้วก้อยมือซ้ายขาด ตรวจโดยรอบบริเวณห่างออกไปประมาณ 400 เมตร พบต้นไม้ถูกตัดวางขวางถนน มีเศษกระจกรถตกอยู่บนพื้น
จากการสอบสวนนางทองใบ กันเภา ทราบว่า
นายเกษมสามีขับรถรับจ้างรับส่งนักเรียนในหมู่บ้าน ส่วนตนทำงานอยู่ที่บริษัทโบฟา จำกัด เป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวคือ น.ส.นลพรรณไม่สบาย ตนกับสามีจึงขับรถจะพาไปส่งโรงพยาบาล เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีท่อนไม้ขวางกลางถนน นายเกษมจอดรถเพื่อจะลงไปเลื่อนออก แต่ยังไม่ทันลง มีชาย 2 คนเดินออกมาจากพงหญ้าข้างทางถามว่าจะไปไหนกัน นายเกษมบอกว่าจะไปโรงพยาบาล แต่ตนเห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้ขับรถหนี คนร้ายเลยใช้ปืนยิงใส่
นางทองใบให้การต่อไปว่า
กระสุนทะลุกระจกหน้าโดนสามี 2 นัด และยังแฉลบมาโดนตนกับบุตรสาว นายเกษมพยายามขับรถหนีไปได้ 400 เมตรก็ขาดใจตายทำให้รถเสียหลักชนต้นไม้และพุ่งตกข้างทาง ขณะเดียวกันคนร้ายขับรถไล่ตามมา จึงพาบุตรสาววิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างถนน และนอนหมอบลงกับพื้น ฆาตกรทั้ง 2 คนจอดรถแล้ววิ่งไล่ตามเพื่อฆ่าปิดปากแต่หาไม่เจอเลยหลบหนีไป หลังจากคนร้ายไปแล้วจึงใช้โทรศัพท์มือถือโทร.ไปหาญาติให้มาช่วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจต้องการปล้นทรัพย์สิน หรืออีกประเด็นหนึ่งมาจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัว
ต้องการฆ่าล้างแค้นนายเกษมคนเดียว แต่ลูกกับเมียมาด้วยเลยจะสังหารทั้งครอบครัว แต่ไม่สำเร็จ นางทองใบกับลูกสาวหนีรอดไปได้ ขณะเดียวกันสอบสวนทราบว่านายเกษมเคยเป็นแกนนำชาวบ้านเรียกร้องการทำประโยชน์ให้หมู่บ้าน อาจทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจ ซึ่งจะได้สืบสวนคลี่คลายคดีต่อไป