ตำรวจเร่งติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มชายฉกรรจ์คลี่ปมดับเหยื่อหน้าเด้ง
เผย 2 ชายต้องสงสัยญาติของคู่กรณีของผู้ตายหายตัวไร้ร่องรอย เชื่อเป็นกุญแจดอกสำคัญนำไปสู่ตัวผู้บงการ นครบาลเตรียมประชุมร่วมกองปราบฯ ล่าตัวมือยิง ทนายมั่นใจไม่กระทบคดีความแม้เจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว ขณะหมอไพศาลเก็บตัวเงียบจนถึงวันนี้
ความคืบหน้าคดีสังหารนางรรีวรรณ เสตะรัต หรือนางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก
แม้ชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้แบ่งกำลังออกสืบหาเบาะแสคนร้าย โดยส่วนหนึ่งเข้าประสานงานกับชุดสืบสวนนครบาล และอีกส่วนเดินทางลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อเสาะหาพยานในบริเวณที่พักของนางรวีวรรณ
จากการลงพื้นที่ มีรายงานจากทีมสืบสวนในพื้นที่ จ.ราชบุรี ว่า
มีพยานบริเวณใกล้เคียงบ้านพักของนางรวีวรรณ ให้การว่า มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่ง ไปปรากฏตัวแถวบ้านพักของนางรวีวรรณเช่นกัน แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่พยานระบุว่าเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ปรากฏตัวแถวที่พักของนายวรรธนะ หรือบุญลือ รุ่งเรือง อดีตคนขับรถแท็กซี่ของ นพ.กวีวัธน์ หรือ นพ.ไพศาล เฮงสวัสดิ์ ก่อนถูกยิงเสียชีวิตหรือไม่
ทั้งนี้ มีรายงานว่า
กลุ่มชายต้องสงสัยที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามกำลังติดตามความเคลื่อนไหว และเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันนั้นมีอยู่ 2 คน คือ นาย ป. และนาย ศ. ซึ่งเป็นญาติของคู่กรณีของผู้ตายทั้งสองคน ซึ่งจากการติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุด พบว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่ปรากฏตัวทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน ทำให้ชุดสืบสวนต้องเร่งสืบหาเบาะแสอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเชื่อว่าทั้งสองคนจะเป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงไปสู่ตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลัง พร้อมทั้งได้นำภาพถ่ายของคนทั้งสอง ไปให้พยานที่อยู่ใกล้เคียงบ้านพักของนางรวีวรรณ ที่ จ.ราชบุรี ดู เพื่อยืนยันอีกครั้งว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยไปปรากฏตัวอยู่แถวบ้านของนางรวีวรรณหรือไม่
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 16 กันยายน พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังไปตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปซ่อนตัว โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่เร่งทำงานเพื่อติดตามตัวคนร้ายอย่างเต็มที่ และในวันที่ 17 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จะประชุมร่วมกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อหาแนวทางในการสืบสวน และติดตามความคืบหน้าของคดีที่ กก.สส.บก.น.4
ขณะเดียวกัน นายนคร ชมพูชาติ ทนายความของนางรวีวรรณ ผู้เสียชีวิตจากกรณีถูกคนร้ายดักยิงในบ้านพักย่านบางกะปิ กล่าวว่า
คดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบพยาน ในส่วนของคดีฉ้อโกงนั้น อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นพ.กวีวัธน์ หรือ นพ.ไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลินิก คลินิกเสริมความงามย่านดอนเมือง ผู้ตายเป็นเพียงโจทก์ร่วม
"การเสียชีวิตของนางรวีวรรณนั้น ไม่กระทบกับการฟ้องร้องทางคดี เพราะหากนางรวีวรรณไม่สามารถเบิกความในฐานะโจทก์ร่วมก็สามารถให้ทายาทขึ้นเบิกความแทน ซึ่งต้องรอสอบถามทายาทของนางรวีวรรณว่าประสงค์เป็นโจทก์ร่วมหรือไม่ ส่วนคดีอื่นนั้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นโจทก์ฟ้องร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนางรวีวรรณ" ทนายความคนเดิม กล่าว
นายนคร กล่าวด้วยว่า
ในส่วนของคดีฉ้อโกงที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นพ.กวีวัธน์นั้น ศาลนัดสืบพยานในวันที่ 2 ตุลาคม แต่พยานปากสำคัญแจ้งว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงขอเลื่อนสืบพยานเข้ามาเป็นวันที่ 21 กันยายนนี้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 กันยายน
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนพ.ไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลินิกย่านดอนเมือง ซึ่งเป็นคู่กรณีฟ้องร้องกับนางรวีวรรณ ที่ถูกคนร้ายดักยิงเสียชีวิตที่บ้านพักย่านบางกะปิ เพื่อสอบถามกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งประเด็นการสังหารมาที่การฟ้องร้องดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อกับ นพ.ไพศาลได้ จึงได้ติดต่อสอบถามไปยังคนใกล้ชิดของ นพ.ไพศาล และได้รับคำตอบว่า ขณะนี้ นพ.ไพศาล ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใดๆ และยืนยันว่า นพ.ไพศาล สบายดี ไม่ได้วิตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาว่าเป็นคนผิด และจะไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าวเพื่อนำไปเสนอข่าว