มัดมือเท้าทุบฆ่าโหดผัวเจ้าชู้หลายใจ

พ.ต.ท.ทีฆวุฒิ บัณฑิตชูสกุล สวส.สภ.อ.หางดง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในบ้านเช่าเลขที่ 144 หมู่ 4 บ้านฟ่อน ต.หนองควาย อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สงวน โรงสะอาด ผกก. แพทย์เวรโรงพยาบาลหางดงและหน่วยกู้ภัยไปตรวจสอบ ในห้องนอนชั้นล่างพบศพ นายอุเทน วงศ์เขียว อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 ต.นาโป่ง อ.เถิน จ.ลำปาง นอนคว่ำหน้าท่อนบนเปลือย สวมเพียงกางเกงในสีฟ้าอ่อนตัวเดียว มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะบวมปูดและปริแตกเป็นแผลฉกรรจ์ 2-3 แห่ง ข้อเท้า 2 ข้างถูกมัดด้วยสายยางยืดติดกันและข้อมือถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกฟางแน่นหนา
 
ห่างประมาณ 1 เมตร มีนางตะวันฉาย วณิชธนานันต์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 2 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ภรรยาของผู้ตายนั่งร่ำไห้ ใบหน้าและดวงตาแดงก่ำ

ท่าทางเมาเต็มพิกัดกลิ่นสุราเหม็นคลุ้ง สวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อยีน นุ่งกางเกงสามส่วนสีเข้ม ทั่วตัวเปรอะเปื้อนเลือดสด ๆ แดงฉาน ในมือถือสากกะเบือไม้เนื้อแข็งยาว 10 นิ้วไว้แน่น 1 อัน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ส่วนศพ นายอุเทน เหยื่ออำมหิตเจ้าหน้าที่มอบให้หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลหางดงและส่งต่อแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อชันสูตรต่อไป

ประกอบอาชีพเป็นตัวแทนจำหน่ายแว่นสายตาให้หลายบริษัท ทุกวันจะเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหาลูกค้า ก่อนเกิดเหตุสามีออกไปดื่มสุรากับเพื่อนแล้วกลับมาที่พัก โดยขอกินยานอนหลับ 1 เม็ดนอนหลับพักใหญ่ก็สะดุ้งตื่นขอกินยาคลายเครียดเพิ่มอีก 1 เม็ด ตนก็หยิบให้กินกับน้ำโค้กจนหลับสนิทไป ระหว่างนั้นตนนั่งมองสามีคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเกิดความแค้นขึ้นมา เพราะเก็บกดกับพฤติกรรมเจ้าชู้มานานแล้ว สามีเห็นผู้หญิงอื่นเป็นไม่ได้ชอบส่งสายตาแทะโลมและจีบดะไม่เว้นลูกเขาเมียใคร เท่านั้นยังไม่พอระแคะระคายว่าแอบคบหาผู้หญิงอีกหลายคน พอสอบถามก็ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง
 
นางตะวันฉาย ให้การต่อว่า หลังจากครุ่นคิดพักใหญ่ ก็ตัดสินใจฉวยโอกาสสามีหลับชำระแค้นฝังใจ

ไปซื้อเหล้ามาดื่มย้อมใจ 1 แบน จนเริ่มเมาก็ใช้สายยางยืดรัดกล่องแว่นตามัดข้อเท้า  2 ข้างและใช้เชือกฟางมัดข้อมือไพล่หลังเพื่อป้องกันสามีตื่นขึ้นมาต่อสู้และทำร้ายร่างกาย จากนั้นคว้าสากกะเบือทูตมรณะในครัวมากระหน่ำทุบศีรษะอย่างไม่ยั้ง สามีสะดุ้งตื่นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดิ้นพล่านเลือดไหลทะลักราวกับท่อประปารั่ว ไม่ผิดกับปลาถูกทุบหัว ยิ่งเห็นเลือดยิ่งสะใจตีซ้ำจนแน่นิ่งสิ้นลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาแล้วนั่งร้องไห้ถือสากกะเบือ กระทั่งตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมตัวมาโรงพักดังกล่าว
 
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นางตะวันฉาย ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้

ก่อนจะควบคุมไว้ดำเนินการต่อไปและจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่าเคยเข้ารับการบำบัดอาการทางจิตที่โรงพยาบาลสวนปรุงหลายครั้ง แพทย์ให้ยานอนหลับและยาคลายเครียดมากินเพื่อบรรเทาอาการไม่ให้กำเริบ คาดว่าคงเกิดอาการเครียดกะทันหันบวกกับทนพฤติกรรมเจ้าชู้และถูกสามีทำร้ายร่างกายมานานจึงก่อเหตุขึ้นมา กลายเป็นคดีฆาตกรรมสยองขวัญในที่สุด.