ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 14 ก.ย. ร.ต.ต. ธัญญะ จันลองภาส ร้อยเวร สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนสวนสมเด็จ ใกล้ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุริมถนนย่านชุมชนใจกลางเมือง พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กมข 751 ฉะเชิงเทรา ล้มพังเสียหายมีคราบเลือดเปรอะรถเต็ม บนพื้นถนนข้างรถพบรองเท้าฟองน้ำสีฟ้า 1 คู่ และธนบัตรใบละ 20 บาท 1 ใบ ตกอยู่ข้างกองเลือดและเศษ ชิ้นเนื้อของเหยื่ออำมหิต
ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่ง รพ. ฉะเชิงเทราก่อนแล้ว และเสียชีวิตระหว่างทางทราบชื่อนางศิริกัลยา วีรเมธามั่น อายุ 58 ปี ข้าราชการซี 7 กองคลังเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อยู่บ้านเลขที่ 22/12 ถนน ศรีโสธรตัดใหม่ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าชายโครงขวาพรุน กระสุนเจาะทะลุชายโครงซ้ายกับหน้าท้องรวม 4 รู จึงนำศพส่ง สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอน
สอบสวนทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถ จยย. คันดังกล่าวมาตามถนน ถึงที่เกิดเหตุ ถูกกลุ่มคนร้ายนั่งรถปิกอัพไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับประกบแล้วคนนั่งเบาะหน้าคู่คนขับใช้ปืนลูกซองสั้นจ่อยิงในระยะเผาขนล้มดิ้นพราดจมกองเลือด หลังมั่นใจเหยื่อไม่รอดแน่แล้วคนร้ายพากันขับรถหลบหนีไปทางถนนหน้าเมืองด้วยความรวดเร็ว จากนั้นพลเมืองดีผู้พบเห็นเหตุการณ์รีบช่วยเหลือนำร่างเหยื่ออำมหิตที่ยังพอหายใจรวยรินส่ง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่นางศิริกัลยาทนความเจ็บปวดไม่ไหว ประกอบกับกระสุน เจาะเข้าจุดสำคัญเป็นเหตุให้สิ้นใจตายระหว่างทางดังกล่าว
พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.เผยว่า
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นภรรยา ด.ต.พายัพ วีรเมธามั่น อายุ 58 ปี อดีตตำรวจฝ่ายการเงิน บก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา โดยก่อนหน้านี้ ด.ต.พายัพได้กู้ยืมเงินจากนายทุน แล้วนำเงิน ไปปล่อยกู้นอกระบบ เพื่อกินดอกเบี้ยต่ออีกทอด แต่โดนลูกหนี้โกงจน ด.ต.พายัพไม่มีเงินไปคืนให้กับนายทุน จึงได้นำเงินจากกองทุนสวัสดิการตำรวจที่ตัวเองดูแลอยู่ ออกมาหมุนเพื่อใช้หนี้ก่อน กระทั่งภายหลังเกรงว่าจะถูกจับได้ จึงชิงลาออกจากราชการและพยายามจะแขวนคอตายแต่คนในครอบครัวพบเห็นช่วยชีวิตไว้ทัน
ผกก.สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรากล่าวอีกว่า
ต่อมา ด.ต. พายัพทนแรงกดดันจากเจ้าหนี้ไม่ไหว เนื่องจากเป็นหนี้ หลายล้านบาท จึงตัดสินใจหนีไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา ปล่อยให้นางศิริกัลยาภรรยาแบกรับภาระหนี้สิ้นแทน คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาหนี้สินจากการปล่อยเงินกู้ ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากเกรงกลัวในพฤติกรรมของคนร้ายที่กล้าลงมืออย่างอุกอาจในที่ชุมชน จึงยังไม่มี ใครกล้าเป็นพยานให้ปากคำกับทางตำรวจ ทำให้การคลี่คลายคดีเป็นไปด้วยความลำบาก