จับแก๊งเรียกค่าไถ่ รีด3ล้าน สาวแบงก์ออมสิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พล.ต.ต.อลงกรณ์ หทัยยุทธ ผบก.ภ.จ.สระบุรี พ.ต.อ.หัสนัย จันทร์ฉายะ รอง ผบก.ภ.จ.สระบุรี พ.ต.อ. มาโนช สุภาพพูล ผกก.สภ.ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ พ.ต.ท.บัญชา มานะพิชิตวงศ์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.พระพุทธบาท พ.ต.ท.โกศล วีรวิศาล รอง ผกก. กลุ่มงานสืบสวนสระบุรี นำกำลังชุดสืบสวน บก.ภ.จ.สระบุรี และ สภ.ต.หน้าพระลาน พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมแก๊งคนร้ายก่อเหตุอุ้มเหยื่อรีดค่าไถ่ในพื้นที่ จ.สระบุรี มากบดานที่คอนโดแห่งหนึ่งในรามอินทรา ซอย 8 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 


หลังวางแผนและปิดช่องทางหนีไว้หมดแล้ว
 
เจ้าหน้าที่จึงจู่โจมจับกุมได้ทั้งหมด 5 คน โดยไม่มีการขัดขืนหรือต่อสู้ใดๆ ประกอบด้วย 1. นายรัตน์ อ่อนน้อม อายุ 24 ปี 2. นายณัฐพล ม้วนเงิน อายุ 21 ปี 3. นาย ศรายุทธ ปิดป้อง อายุ 21 ปี 4. นางวิลาวรรณ นุชนารถ อายุ 18 ปี และ 5. นางนฤมล ชมภูศรี อายุ 22 ปี พร้อมของกลางรถปิกอัพอีซูซุ ทะเบียน ปอ 1236 กรุงเทพมหานคร ปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน 2 นัด และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง


จากการสอบสวนเบื้องต้น นายรัตน์ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาให้การว่า
 
ยังมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 1 คน ชื่อนางโบตั๋น บัวเผื่อน อายุ 49 ปี บ้านอยู่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงตามไปรวบตัวนางโบตั๋นได้คาบ้านที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นำตัวส่ง พ.ต.ท.ศักสร แยงทิพย์ สวส.สภ.ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี ท้องที่เกิดเหตุ สอบสวนดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ





 



สำหรับเบื้องหลังการจับกุมแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่รายนี้

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นางสุกัญญา บุญรอด อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ. สระบุรี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีธนาคารออมสิน สาขาแก่งคอย จ.สระบุรี ขับรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ ทะเบียนฝร 8673 กรุงเทพมหานคร จะกลับบ้านหลังเลิกงาน ระหว่างทางได้มีนางโบตั๋น บัวเผื่อน ซึ่งเป็นญาติกันเรียกให้จอด ขอติดรถกลับบ้านที่ อ.พระพุทธบาท ด้วย 


กระทั่งรถวิ่งผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อเขาขาว
 
เขตเทศบาลตำบลหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ ปรากฏว่ามีกลุ่มคนร้ายทั้งชายหญิง 5 คน ขับรถปิกอัพอีซูซุ ทะเบียน ปอ 1236 กรุงเทพมหานคร ขับตามประกบแล้วปาดหน้าบังคับให้จอด จากนั้นคนร้ายเป็นชาย 2 คน คือนายรัตน์กับนายณัฐพล วิ่งลงจากรถกระบะเข้าไปหานางสุกัญญากับนางโบตั๋น ใช้ปืนลูกซองจี้บังคับให้ขับรถออกไปจากที่ชุมชน โดยคนร้ายอีกคน คือนายศรายุทธ ขับรถปิกอัพตามหลัง 


พอถึงที่เปลี่ยว คนร้ายจับมัดมือและปิดตาทั้ง 2 ไปคุมขังที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยคนร้ายข่มขู่นางสุกัญญาว่า

ให้รีบติดต่อญาตินำเงินสด 3 ล้านบาทมาแลกกับอิสรภาพ ขณะที่นางสุกัญญาได้ต่อรอง และอ้อนวอนว่า ขอให้ปล่อยกลับบ้านก่อน เพื่อไปหาเงินมาให้ภายหลังเพราะเงินฝากไว้ในธนาคาร ต้องไปเบิกด้วยตัวเอง คนร้ายยอมตกลง แต่ยังขู่สำทับอีกว่า หากเบี้ยวหรือไม่ทำตามคำพูดหรือไปแจ้งตำรวจ จะตามไปฆ่าถึงบ้าน และก่อนปล่อยตัวกลับ คนร้ายยึดเอาเงินติดตัวไป 7,000 บาท

จากนั้นนางสุกัญญาขับรถกลับบ้านพร้อมกับนางโบตั๋น และเล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีฟัง จากนั้นสามีพาเข้ามาแจ้งที่ สภ.ต.หน้าพระลาน ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องเงินค่าไถ่ตลอด และจะขู่ทุกครั้งว่า ถ้าไม่มาตามนัดจะตามไปฆ่า กระทั่งตำรวจวางแผนให้นางสุกัญญาโอนเงินค่าไถ่ให้แก๊งคนร้ายก่อน 3,000 บาท เพื่อนำไปเป็นหลักฐาน กระทั่งตรวจสอบพบสถานที่กบดานของคนร้าย จึงนำกำลังเข้าจับกุม


ขณะที่นายรัตน์ อ่อนน้อม อายุ 24 ปี หัวโจกแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่ ให้การว่า
 
ตนกับนางโบตั๋นได้เสียเป็นผัวเมียกันมานานแม้จะมีอายุต่างวัย ก่อนหน้านั้นขัดสนเรื่องเงินทองใช้จ่าย จึงเรียกพรรคพวกมาวางแผนหาเงิน โดยนางโบตั๋นแนะนำว่า ให้จับตัวนางสุกัญญาไปเรียกค่าไถ่ เพราะทำงานธนาคารและมีฐานะดี จึงวางแผนให้ นางโบตั๋นขอนั่งติดรถไปกับนางสุกัญญาระหว่างทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายขับรถไปธุระที่อื่น กระทั่งสบโอกาสจึงขับรถปาดหน้าจับมัดมือปิดตาไปขังไว้ในโรงแรม ส่วนนางโบตั๋นให้การว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนายรัตน์ ผัวรุ่นลูกเป็นคนบังคับให้ทำทั้งที่ไม่เต็มใจ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์