จับโจ๋โหดยิงหัวสาว 17 ท้อง 3เดือนหลังเหยื่อไหว้ขอชีวิต

จับยกแก๊ง 3 หนุ่มโจ๋ปากน้ำเหี้ยมยิงหัวและแผ่นหลังสาวดับอนาถ


ก่อนลากศพทิ้งคูน้ำฉกจยย.อำพรางคดี สารภาพเหยื่อเพื่อนแฟนสาว คุกเข่าไหว้ขอชีวิตตัวเองและทารกวัย 3 เดือนในครรภ์ ก็ไม่สน เพราะกลัวความผิดหลังก่อเหตุซิ่งจยย.ประกบยิงแฟนเก่าที่ตีตัวออกหากไปมีคนรักใหม่หวังระบายความแค้น
 

จากกรณีคนร้ายซิ่งปาดหน้ารถจักรยานยนต์หญิงสาว 2 คน และบังคับให้จอดรุแต่เหยื่อสาววิ่งหนีจนถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ห่างจากถนนบางนา-ตราด กม.24 ขาออก กทม. เข้าไปในถนนบางนาการ์เด้นมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เหตุเกิดวันที่ 31 ก.ค.ท้องที่รับผิดชอบของ สภ.อ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กระทั่งต่อมาตำรวจสามารถจับกุมนายกิติศักดิ์ เปี่ยมงาม อายุ 20 ปี 1 ในผู้ก่อเหตุได้ แต่ยังคงให้การปฎิเสธ ต่อมาเวลา 01.00 น. กลางดึกคืนวันที่ 14 ก.ย. พ.ต.อ.ขจร เพชรชุมชน ผกก.สภ.อ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายไพรัตน์ ชูบางบ่อ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และนายชาญชัย บุญรอด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมทั้งคู่ได้ที่บ้านพัก


นายไพรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อกลางดึกของ วันที่ 30 ก.ค.2550 ที่ผ่านมา


ได้พบกับน.ส.สุวรรณี สมเป็นชาย อายุ 15 ปี แฟนเก่าซึ่งเดินมากับ น.ส.วิภารัตน์ พูลสวัสดิ์ หรือ ส้ม อายุ 17 ปี ที่โต๊ะสนุกเกอร์ข้างวัดสุคันธาวาส ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงเกิดโมโหที่น.ส.สุวรรณี ได้ตีจากไปมีแฟนใหม่ จึงได้ตบหน้า น.ส. สุวรรณี ไปหนึ่งครั้ง น.ส.สุวรรณี และน.ส.วิภารัตน์ จึงรีบขี่รถจักรยายยนต์หลบหนี ตนจึงได้ชักชวนนายชาญชัย และนายกิติศักดิ์ เพื่อนสนิทขี่รถจักยานยนต์ตามกระทั่งมาทันกันที่ ซอยมหาวิทยาลัยเอแบค ถนนบางนา-ตราด กม.24 ตนเองจึงใช้ปืนยิงใส่ น.ส.สุวรรณี จำนวน 2 นัด กระทั้งล้มฟุบลงตนเองคิดว่า น.ส.สุวรรณี คงจะเสียชีวิตแต่มาทราบภายหลังว่า น.ส.สุวรรณี แกล้งตาย

ส่วนน.ส.วิภารัตน์ ได้วิ่งหลบหนี จึงชวนพวกที่มาด้วยไปวิ่งตามกระทั่งตามมาทันกันห่างจากจุดเดินประมาณ 100 เมตร

ระหว่างนั้น น.ส. วิภารัตน์ ได้นั่งคุกเข่าร้องขอชีวิตตัวเองและลูกในท้องที่เพิ่งตั้งครรภ์ได้เพียง 3 เดือน แต่ตนคิดว่า น.ส.วิภารัตน์ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเกรงว่าหากปล่อยไป น.ส.วิภารัตน์จะนำเรื่องเข้าแจ้งความดำเนินคดี จึงตัดสินใจใช้ปืนขนาด .38 จ่อที่กลางศีรษะ ขณะที่ น.ส. วิภารัตน์ นั่งคุกเข่ายกมือไหว้ และนายกิติศักดิ์ ได้ใช้ปืนขนาด .22 จ่อเล็งที่ด้านหลังของ น.ส.วิภารัตน์ และด้วยกลัวความผิดจึงได้ลั่นกระสุนปืนไปที่ น.ส.วิภารัตน์ พร้อมกัน จากนั้นได้ช่วยกันนำศพโยนทิ้งคูน้ำข้างทาง และขโมยรถจักยานยนต์ที่ทั้งคู่ขี่มา เพื่ออำพรางว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ และแยกย้ายกันหลบหนี กระทั้งถูกตำรวจจับกุมตัวได้
 

เวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไพรัตน์ ไปทำแผนประกอบคำสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ภายใน ซอยมหาวิทยาลัยเอแบค ถนนบางนา-ตราด กม.24

ซึ่งตำรวจใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที เนื่องจากเกรงว่าญาติของผู้ตายจะโกรธแค้นมารุมประชาทฑัณ ทั้งนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนคือ1.ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น 2.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะ 4.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์