อนาถ!!! 2 พ่อลูก อดีตปลัดอำเภอและลูกสาว ดับปริศนาคาบ้านพัก

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2549 03:05 น.

อดีตปลัดอำเภอพร้อมลูกสาว ดับปริศนา คาบ้านพัก ย่านหมู่บ้านเศรษฐกิจ เบื้องต้นพบลูกสาวมีอาการทางประสาท เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่เพื่อนบ้านช่วยทัน คาดอาการประสาทคงกำเริบจึงลงมือฆ่าบิดา ก่อนฆ่าตัวตายตาม

เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (15 เม.ย.) พ.ต.ท.ชำนาญ เอกพิทักษ์พงษ์ สว.เวร สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 33/6 หมู่ 3 หมู่บ้านเศรษฐกิจ ซ.อัสสัมชัญ 3 ถ.เพชรเกษม แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น พบว่าประตูหน้าบ้านชั้นล่างถูกล็อคจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงพังประตูเข้าไป ภายในเจ้าหน้าที่พบเตียงไม้ตั้งอยู่กลางบ้านชั้นล่างและมีมุ้งคลอบอยู่ข้างเตียงพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อรุณี เผ่าทรง อายุ 40 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกสีเขียว กางเกงผ้าสามส่วนสีเขียว สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้อง

นอกจากนี้บริเวณริมทางเดินภายในบ้านยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 รายทราบชื่อต่อมาคือนายบุญสม เผ่าทรง อายุ 79 ปี นอนหงายหนุนหมอน สวมเสื้อเชิ้ตลายดอกสีฟ้า มีผ้าขาวม้าลายสก็อตขาวแดงคลุมตัวอยู่ สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่งเหม็นไปทั่วห้องเช่นกัน ตรวจสอบภายในบ้านไม่พบขวดยาฆ่าแมลงหรือสารพิษแต่อย่างใดเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าทั้งสองคนเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน

จากการสอบสวน นายอภิธรรม เผ่าทรง อายุ 53 ปี อาชีพทนายความ ลูกชายของนายบุญสมผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นบิดาและหญิงคนดังกล่าวเป็นน้องสาวของตน โดยบ้านหลังดังกล่าวบิดา ซึ่งเป็นอดีตปลัดอำเภอในจังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยภูมิ อาศัยอยู่กับน้องสาวเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งน.ส.อรุณี น้องสาวนั้นเรียนจบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช แต่เมื่อจบแล้วก็ไม่ได้ทำงานเพราะมีอาการทางโรคประสาท นอกจากนี้ครอบครัวของตนยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งปลูกบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของบิดา ส่วนตนนั้นไม่ค่อยถูกกับพี่ชายจึงแยกตัวไปอยู่ที่อื่น

นายอภิธรรม ยังกล่าวต่อว่า ช่วงเช้าวันนี้ตนเดินทางมาที่บ้านเพื่อจะพาบิดาไปทำบุญกระดูกมารดาที่วัด ซึ่งก็ได้มาเรียกอยู่หน้าบ้านเป็นเวลานานแต่ไม่มีใครออกมาก็คิดว่าไม่มีใครอยู่บ้านจึงเดินทางไปทำบุญคนเดียว ช่วงเย็นจึงแวะมาที่บ้านอีกเพราะคิดว่าบิดากับน้องสาวน่าจะอยู่บ้านแล้ว แต่เมื่อมาถึงตนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจึงเดินไปในบ้านพี่ชายที่ติดกันพอเปิดหน้าต่างดูภายในบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงลอยมาจากบ้านจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบพบว่าทั้งสองเสียชีวิตแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ชำนาญ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากอะไร และใครเป็นคนเสียชีวิตก่อนกันระหว่างลูกสาวและพ่อ ซึ่งต้องให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้ง แต่จากการสันนิษฐานคาดว่า น.ส.อรุณี ซึ่งมีอาการทางประสาทและก่อนเกิดเหตุอาการทางประสาทคงจะกำเริบจึงลงมือทำร้ายและพลาดฆ่าบิดาของตัวเอง ก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติของน.ส.อรุณี ทราบว่าเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งทั้งกินยาฆ่าตัวตาย และผูกคอตาย แต่มีเพื่อนบ้านช่วยชีวิตไว้ทันทุกครั้งแต่ครั้งนี้เชื่อว่าเพื่อนบ้านไปเที่ยวสงกรานต์กันหมดไม่มีใครอยู่จึงช่วยไว้ไม่ทัน