นร.หญิง ม.2 หายตัว4วัน เป็นศพในบ่อน้ำ

สุดสลด!นักเรียนหญิง ม.2 โรงเรียนดังถูกฆาตกรโหด ฆ่าหมกบ่อน้ำกลางทุ่งนครหลวง หลังเหยื่อหายตัวลึกลับเกือบ 4 วัน ขณะไปนั่งรอรถไปเรียนหนังสือ พ่อแม่-ญาติ ออกตามหาจ้าละหวั่นแต่ไร้เงา จนในที่สุดพบกลายเป็นศพขึ้นอืด ล่าสุด มีพยานเห็นวายร้ายเป็นชาย-หญิง วัยกลางคน ซิ่งเก๋งสีเหลือง ฉุด กระชากคนตายขึ้นรถหายไป ตร.ส่งพิสูจน์ถูกข่มขืนหรือไม่ ผู้การ เข้ม สั่งระดมชุดสืบสวนไล่ล่าเป็นการด่วน 
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ก.ย. พ.ต.ท.การุณ พิมพา สวส.สภ.อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุพบศพ ที่บ่อน้ำกลางทุ่งนา

ท้องที่หมู่ 2 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จึงพร้อม พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผกก. พ.ต.ต.ชนิสสร์ กระจ่างเนตร สว.สส. พ.ต.ต.อุดม ศรีอนงค์ สวป. พร้อมชุดสืบสวน แพทย์ และมูลนิธิพุทไธศวรรย์ รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพผู้หญิงลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำมีพงหญ้าปิดบังอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมาจากน้ำพบตัวหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ต่อมา คือ ด.ญ.ชลธิชา วิมลพฤกษ์ อายุ 14 ปี หรือ น้องแนน เป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนอยุธยานุสรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 63/34 หมู่ 5 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3-4 วัน 

พร้อมยืนยันว่า ศพที่พบเป็นหลานสาว คือ น้องแนน ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา และตนพร้อมพ่อแม่เด็กได้แจ้งความไว้ที่ สภ.อ. พระนครศรีอยุธยา ว่า น้องแนน แต่งชุดนักเรียน ออกจากบ้านไปรอรถโดยสาร ที่ศาลาหน้าปากซอย หน้าสถานีอนามัยบ้านเกาะ ใกล้สี่แยกช่างแสง แล้วหายตัวไป มีชาวบ้านพบกระเป๋านักเรียน และหูกระต่ายคอซอง ของน้องแนนตกอยู่ที่ศาลารอรถโดยสาร ญาติ ๆ พยายามตามหาก็ไม่พบตัว
 
ด้านนายไมตรี เปิดเผยว่า น้องแนน ปกติอยู่ที่โรงเรียนเป็นเด็กเรียบร้อย ความประพฤติดี เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ทุกเช้าเด็กคนนี้จะมายืนเข้าแถว

แต่เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เด็กหายไป จึงได้สอบถามไปยังผู้ปกครอง ทราบว่าได้หายตัวไป ซึ่งไม่น่าจะมาเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างนี้ และเรื่องนี้ตนจะนำเรื่องเสนอต่อ ผอ.โรงเรียน ในการนำเข้าประชุม ต่อคณะกรรมการสถานศึก ษาประจำจังหวัดต่อไป เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้อีก
  
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในบริเวณดังกล่าว

โดยจุดที่พบศพก็เป็นทางเปลี่ยวรถใหญ่ไม่สามารถวิ่งเข้าไปมาได้ มีเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้นที่จะรู้เส้นทาง เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ได้ฉุดกระชากผู้ตาย จากศาลารอรถโดยสารมายังจุดที่พบศพ เพื่อนำมาข่มขืน แต่ผู้ตายไม่ยอมจึงเกิดความโมโหและลงมือบีบคอจนสิ้นใจ แล้วนำศพไปหมกในบ่อน้ำ ก่อนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรอผลผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้งว่าผู้ตายถูกข่มขืนหรือไม่ และหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป 
  
พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า

ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ ตำรวจ สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.อ.นครหลวง ลงตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นเป้าหมายในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ และขณะนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นแล้ว โดยได้ให้ชุดสืบสวนเข้าประกบดูพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นเป้าหมายแล้ว ล่าสุดชุดสืบสวน พบพยานเห็นว่าในวันเกิดเหตุมีรถเก๋งสีเหลือง ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณศาลาที่เกิดเหตุ แล้วมีหญิงอายุประมาณ 40 ปี ชายอายุประมาณ 50 ปี ลงมาฉุดกระชาก ผู้ตายให้ขึ้นรถ จากนั้นก็ขับออกไปทางสายเอเซีย เบื้องต้น พล.ต.ต. นเรศ ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้ายทั้งสองเป็นการด่วน.