ทรง "พระเจ้าตาก" แฉแต่งตัวเลียนแบบ เปิดสำนักตุ๋นชาวบ้าน
พบหนุ่มอ้างเป็นร่างทรงพระเจ้าตากสิน แถมแต่งชุดเลียนแบบ เปิดตำหนักหลอกเงินชาวบ้าน ทั้งรับสะเดาะเคราะห์ ดูดวง รวมถึงมนต์ดำทุกชนิด ระหว่างทำพิธียังซดเหล้าขาวแกล้มมะขามเปียก ทำตัวสั่นสร้างความน่าเชื่อถือ ตร.ประกบพบเข้าข่ายต้มตุ๋นและอาจหมิ่นเบื้องสูง แต่ยังจับไม่ได้อ้างไม่มีผู้เสียหาย พบประวัติเป็นตำรวจบ้านแถวฝั่งธนฯ
การเข้าเจ้าเข้าทรงอยู่ควบคู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลานาน ล่าสุด "คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ถึงพฤติกรรมของบุคคลที่อ้างตัวเป็นร่างทรงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลอกเอาเงินชาวบ้านที่หลงเชื่อ จากการตรวจสอบพบตำหนักของร่างทรงนั้น เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ห่างจากถนนสุขสวัสดิ์เข้าไปประมาณ 50 เมตร ปากซอยเข้าบ้านติดกำแพงปั๊มน้ำมัน ปตท.ใกล้กับซอยสุขสวัสดิ์ 31
บริเวณหน้าบ้านตั้งแท่นบวงสรวงมีรูปปั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงม้า ลักษณะเดียวกับพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินที่ประดิษฐานอยู่ที่วงเวียนใหญ่ วางอยู่กลางแท่นบวงสรวง นอกจากนี้ ยังมีป้ายหินอ่อนแกะตัวหนังสือสีทองระบุว่า ตำหนักของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในบ้านมีผู้อยู่อาศัย 8 คน เป็นผู้หญิง 4 คน เด็ก 3 คน และนายเปี๊ยก ผู้ที่อ้างตัวเป็นร่างทรง
ก่อนการเข้าตรวจสอบบ้านพักหลังนี้ นายสมชาย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในละแวกดังกล่าว แจ้งให้ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ทราบว่า นายเปี๊ยก อ้างตัวเป็นร่างทรงพร้อมยกตัวว่าหยั่งรู้ฟ้าดิน สามารถช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนได้ทุกเรื่อง หากใครมีเคราะห์ก็จะทำพิธีสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตาให้ รวมทั้งยังรับทำพิธีทางไสยศาสตร์ต่างๆ อีกหลายอย่าง ทุกครั้งที่ทำพิธีประทับทรง นายเปี๊ยกจะเรียกเก็บเงินค่ายกครู ในอัตราตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท แล้วแต่ความยากง่ายในเรื่องที่ผู้เดือดร้อนเข้าไปขอให้ช่วย ทุกวันจะมีประชาชนโดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน หมุนเวียนเข้าไปหาร่างทรงรายนี้อยู่เป็นประจำ
นายสมชาย ให้รายละเอียดด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนมีเรื่องทะเลาะกับภรรยา มีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร จึงเข้าไปให้นายเปี๊ยก ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้
"ตอนนั้นภรรยาหนีไป ไม่รู้ไปไหน ตามหาทุกที่ก็ไม่เจอ ผมจึงขอให้ช่วยนั่งทางในตามหาให้ เขาเก็บเงินผมทันที 100 บาท อ้างว่าเป็นค่าครู ขณะทำพิธีเขาแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนกับภาพถ่ายของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่มีผิดเพี้ยน โดยแทนตัวเองว่าพ่อตลอดการสนทนา และนำประวัติศาสตร์สมัยตอนปลายกรุงธนบุรีมาพูดคุยกับผม ซึ่งข้อความที่เขาพูดออกมาไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะมีการกล่าวพาดพิงถึงรัชกาลที่ 1 ในทางไม่ดีด้วย" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ระหว่างเข้าทรงนายเปี๊ยกบอกว่า ภรรยาของตนหนีไปกับชู้ ไปอยู่ต่างจังหวัดห่างไกล และจะไม่กลับมาหาตนอีก แต่หากอยากได้ภรรยากลับคืนมา ก็จะส่งทหารเอกไปตามกลับมาให้
"ตอนแรกผมเชื่อทันทีและรู้สึกเกลียดภรรยามาก แต่พอผมกลับถึงบ้าน ก็พบภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว ภรรยาบอกว่าช่วงที่โกรธเขาไปอยู่กับแม่ผมที่ดอนเมือง ไม่ได้ไปไหนกับใคร เพียงแต่บอกกับแม่ไม่ให้บอกผมเท่านั้น" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ครอบครัวตนเกือบแตกแยกถึงขั้นหย่าร้าง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่นายเปี๊ยกระบุระหว่างการเข้าทรง แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าที่ผ่านมาคงมีผู้เดือดร้อนจากการกระทำของนายเปี๊ยกมาแล้วหลายราย เพราะเท่าที่สังเกตแทบทุกวันจะมีชาวบ้านหลายรายเข้าไปให้บุคคลผู้นี้ทำพิธีทางไสยศาสตร์
ข้อมูลที่ได้จากนายสมชาย สอดคล้องกับสิ่งที่ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" เข้าไปพบกับตัวเอง ขณะเข้าตรวจสอบพบมีหญิงวัย 30 ปีเศษ เข้าไปให้นายเปี๊ยก ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ ซึ่งห้องทำพิธีอยู่ด้านในของตัวบ้าน ภายในห้องดังกล่าวแบ่งซอยออกเป็น 3 ห้องเล็ก โดยห้องโถงกลางมีชั้นวางรูปปูนปั้น เป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงม้า รูปปั้นกุมารทอง และรูปปั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) และพระพุทธรูป รวมถึงรูปปั้นหญิงชายสวมชุดไทยสมัยโบราณ วางอยู่เต็มห้อง ที่ฝาผนังมีพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าตากสินขนาดใหญ่แขวนอยู่
ห้องเล็กด้านหลังเป็นห้องสำหรับแต่งตัว โดยมีเสื้อผ้าชุดไทยหลายชุดแขวนอยู่ ซึ่งห้องดังกล่าวทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ ทำได้เพียงสังเกตจากระยะไกลเท่านั้น
ส่วนอีกห้องเป็นห้องเล็กๆ ขนาดความกว้างประมาณ 2 คูณ 3 เมตร มีเก้าอี้ปูด้วยพรมลายเสือวางอยู่กลางห้อง ซึ่งห้องดังกล่าวนายเปี๊ยกใช้สำหรับทำพิธีเข้าทรง
ระหว่างทำพิธี นายเปี๊ยกสวมชุดเลียนแบบพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใช้ดาบขนาดเล็กกวัดไกวไปตามลำตัว ตัวสั่นเทา ก่อนจะสงบเงียบ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เพื่อให้แตกต่างจากน้ำเสียงเดิม
จากการสังเกตพบว่า ระหว่างที่นายเปี๊ยกทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้หญิงสาวรายนี้ จะดื่มเหล้าขาว แกล้มกับมะขามเปียก และสูบบุหรี่ทีเดียวกันหลายมวน และจะพยายามถามหญิงสาวและผู้สื่อข่าว ที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากหญิงสาวรายนี้มากนักอยู่ตลอดว่า หน้าเหมือนกับพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าตากสินที่แขวนอยู่บนฝาผนังเหนือเก้าอี้ที่นายเปี๊ยกนั่งอยู่หรือไม่
หลังทำพิธีจบ นายเปี๊ยก ได้เรียกค่าทำพิธีจากหญิงสาวรายนั้น 399 บาท และยังบอกด้วยว่าหลังจากนี้หากชีวิตดีขึ้น ก็ให้หมั่นมาทำบุญที่ตำหนักบ่อยๆ ผลบุญจะได้ช่วยเสริมดวงชะตา
จากพฤติกรรมของนายเปี๊ยก ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมา พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ รับทราบข้อมูล จึงส่งชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบพฤติกรรมนายเปี๊ยกทันที
พ.ต.อ.ไกรเลิศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายเปี๊ยก เป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านในพื้นที่รับผิดชอบ รู้จักตำรวจในท้องที่หลายคน จึงส่งทีมสืบสวนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาเข้าไปตามประกบนายเปี๊ยกถึงบ้านพักที่ทำเป็นตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
"มีการอ้างตัวเป็นร่างทรงสมเด็จพระเจ้าตากสินจริง และมีพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจจึงยังไม่สามารถจับกุมได้ จึงอยากร้องขอให้ประชาชนที่เคยถูกนายเปี๊ยกหลอกลวงเข้าแจ้งความกับตำรวจโดยด่วนเพื่อดำเนินการจับกุมต่อไป ส่วนคำพูดของนายเปี๊ยก ที่กล่าวอ้างถึง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และรัชกาลที่ 1 คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่" พ.ต.อ.ไกรเลิศ กล่าว