อาก้าถล่มล้างครัว4ศพ-ไม่เว้นดญ.11ขวบ
ฆ่าล้างครัว 4 ศพสยองสระแก้ว มือปืนสวมหมวกไหมพรมควงปืนอาก้าบุกเดี่ยวกราดยิงล้างครัว พ่อกับลูกชายวัย 15 ปีตายสยองพร้อมแฟนสาวของลูกวัย 18 และหลานสาววัย 11 ขวบ นอกจากนี้ ยังมีคนเจ็บสาหัสอีก 3 มีเด็กชายวัย 8 ขวบรวมอยู่ด้วย แฉลงมือสุดเหี้ยมพอเปิดประตูบ้านก็เปิดฉากรัวยิงไม่ยั้ง ไม่สนคนแก่-เด็ก ตร.มุ่งปมชู้สาวเพราะโจ๋วัย 15 ปีที่ตายกับแฟนสาววัย 18 นั้นเพิ่งมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับเสี่ยผจก.ปั๊มน้ำมัน น้องชายนายกเล็กวังน้ำเย็น ระบุสาว 18 เป็นกิ๊กเก่ากับเสี่ยใหญ่ ก่อนตีจากมาอยู่กับโจ๋ บิ๊กตร.เรียกสอบเสี่ยใหญ่ ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ยันเลิกรากับกิ๊กสาวไปนานแล้ว
ฆ่าล้างครัว 4 ศพสยองสระแก้วเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ร.ต.ต.โสจิกร จำเริญมา พนักงานสอบสวนเวร.สภ.อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 8 บ้านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธานีวัฒน์ เตียงพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.คลองหาด พ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง สวป.สภ.อ.คลองหาด
ที่เกิดเหตุพบศพนายบุญลือ ขยันงาน อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตกลางบ้าน ห่างเพียงประมาณ 5 เมตร ภายในห้องนอนพบศพอีก 2 ศพทราบชื่อคือนายจตุพล ขยันงาน อายุ 15 ปี น.ร.ชั้นม.3 โรงเรียนคลองหาดพิทยา ลูกชายนายบุญลือ และน.ส.ปิติพร หรือจิ๊บ อร่ามเรือง อายุ 18 ปี น.ร.ชั้นม.6 โรงเรียนคลองหาดพิทยา แฟนสาวของนายจตุพล
นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน คือ นางทองม้วน ขยันงาน อายุ 45 ปี ภรรยานายบุญลือ นายสวัสดิ์ คาอรัญ อายุประมาณ 50 ปี และด.ญ.มิตรา เปลี่ยนสี อายุ 11 ขวบ และด.ช.ธนากร เปลี่ยนสี อายุ 8 ขวบ หลานของนายบุญลือถูกยิงอาการสาหัส ญาติได้นำส่งยังร.พ.คลองหาด แต่ด.ญ.มิตราทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนกลาดทั้งบ้านรวมแล้ว 11 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 2 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเวลา 22.00 น. พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น รองผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วยพ.อ.อภัย อรัญธิมา ผบ.กรมทหารพรานที่ 13 คลองหาด นายธีรพล ศิริธานานุวัฒน์ นายอำเภอคลองหาด นำกำลังนายตำรวจทหารพราน หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้วประมาณ 50 นาย เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
นางนิฤมล เปลี่ยนสี อายุ 32 ปี ลูกสาวของนายบุญลือ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ได้มีคนร้ายจำนวน 1 คนบุกเข้ามาภายในบ้าน สวมหมวกไหมพรมสีเทาปิดหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า พร้อมปืนอาก้า พอเข้ามาก็รัวยิงเข้าใส่คนในบ้าน โดยมุ่งไปที่นายบุญลือเป็นศพแรก จากนั้นยิงใส่กลุ่มนางทองม้วนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ภายในบ้านจนฟุบจมกองเลือด ต่อมาคนร้ายก็เดินเข้าไปที่ห้องนอน ยิงนายจตุพลที่โดดออกมาปิดป้องน.ส.ปิติพร แฟนสาว แต่ก็ตายด้วยกันทั้งคู่ จากนั้นคนร้ายกราดยิงอีกรวม 3 ชุดแล้วหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
จากการสอบสวนของ พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น รองผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากการทำธุรกิจชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายบุญลือมีอาชีพค้าไม้เฟอร์นิเจอร์กับพ่อค้าชาวกัมพูชา อีกประเด็นหนึ่งก็อาจจะมาจากเรื่องชู้สาว
ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นายสุวรรณ ทวีผล ผอ.โรงเรียนคลองหาดพิทยา พร้อมเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นนายจตุพล และน.ส.ปิติพร ได้มีการกล่าวไว้อาลัยการเสียชีวิตของทั้งคู่ที่หน้าเสาธง เพราะเด็กทั้งสองเป็นนักกีฬาของโรงเรียนทั้งคู่
เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รองผบช.ภาค 2 เดินทางมาที่สภ.อ.คลองหาด มีพล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น รองผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.ธนดล มณีภาค รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวนสอบสวน ภ.2 เข้ารายงานการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
พล.ต.ต.โกศล กล่าวว่า คดีนี้ทางผู้ใหญ่ได้ให้ความสนใจมากเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายผู้นี้ใจคอโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ฆ่าได้กระทั่งเด็กที่ไร้เดียงสา หมายฆ่ายกครัว ซึ่งในเบื้องต้นชุดสืบสวนภาค 2 และชุดสืบสวนของสระแก้วได้ออกสืบสวนพื้นที่เพื่อหาหลักฐาน และมารวบรวมร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งขณะนี้ได้ตัดประเด็นการค้าขายออกไป เพราะการค้าไม้แค่หลักหมื่นเท่านั้น จะไปขัดพลประโยชน์เรื่องไม้ดูแล้วน้อยมาก และก็มีความชัดเจนในประเด็นชู้สาวของนายจตุพล ลูกชายนายบุญลือมากกว่า โดยให้น้ำหนักประเด็นนี้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะจากการสืบสวนทราบว่าก่อนหน้าที่นายจตุพลไปรักใคร่ชอบพอกับน.ส.ปิติพรนั้น น.ส.ปิติพรเคยคบกับนายนิพนธ์ นารีรักษ์ ผู้จัดการปั๊มน้ำมันเชลล์ น้องชายนายกเทศมนตรีต.วังน้ำเย็น ซึ่งได้ส่งเสียเลี้ยงดูกันมาก่อน เสียเงินนับแสนบาท
พล.ต.ต.โกศล กล่าวว่า ล่าสุดน.ส.ปิติพรได้มาขอเงินอีก 25,000 บาท เพื่อไปจ่ายค่ามอเตอร์ไซค์ และหลังจากนั้นก็ได้หายไป โดยฝ่ายหญิงได้เริ่มตีตัวออกห่าง และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นายนิพนธ์ได้พบเห็นน.ส.ปิติพรกับนายจตุพลขับขี่รถจักรยานยนต์ไปมาด้วยกัน จึงขับรถเก๋งเข้าปาดหน้าและมีปากเสียงพร้อมข่มขู่ฝ่ายหญิงไว้ ซึ่งน.ส.ปิติพรได้บอกไปว่าเรื่องของเรามันจบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ได้สอบสวนแม่ของน.ส.ปิติพรแล้ว เพราะแม่ทราบดีว่าลูกสาวไปเอาเงินเขามา จึงนับว่าเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมากกว่า
จากนั้นพล.ต.ต.โกศลเรียกตัวนายนิพนธ์มาสอบสวนที่สภ.อ.คลองหาด โดยนายนิพนธ์ให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า ได้เลิกรากับน.ส.ปิติพรไปนานแล้วไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน หลังจากสอบสวนประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวนายนิพนธ์กลับไป
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายเป็นมือปืนอาชีพ เชี่ยวชาญด้านการใช้ปืนอาก้าเป็นอย่างดี เพราะยิงได้แม่นยำ คนร้ายต้องรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะหลบหนีอย่างรวดเร็ว เชื่อว่ามีการดูลาดเลาก่อนลงมือด้วย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตำรวจตรวจพบหมวกไหมพรมสีเทาซึ่งคนร้ายถอดทิ้งอยู่ที่ป่าข้างทางริมถนนสายคลองหาด-อรัญประเทศ
ข้อมูลจาก