แต่ยอมรับว่ารู้จักสาวรุ่นกว่า1ปี เคยให้เงินใช้จ่ายสงสารฐานะยากจน ไม่เคยคิดเป็นอื่น แค่ "เพื่อนต่างวัย" ยันพักหลังห่าง ๆ กันแล้ว วอนขอความเป็นธรรมจาก ตร. อย่าเห็นเป็น "แพะ" ขณะที่ "อัศวิน" สั่งสืบภาค-สืบจังหวัดลุยแหลกหาเบาะแสมือปืนทมิฬ เชื่อระดับพระกาฬชำนาญพื้นที่ กบดานดูเชิงยังไม่ออกนอกประเทศ ครู-ผู้ปกครองแห่ไว้อาลัย นร.เหยื่อโหด เรี่ยไรเงินทำบุญ รองผู้ว่าฯ จี้ทหาร-ตำรวจเข้มอาวุธชายแดน
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ "ฆ่ายกครัว"
มือปืนไอ้โม่งลากปืนอาก้าบุกบ้านเลขที่ 115 หมู่ 8 บ้านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว สังหารโหด นายบุญลือ ขยันงาน อายุ 50 ปี พ่อค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ในกัมพูชา นายจตุพร ขยันงาน อายุ 15 ปี บุตรชาย น.ส.ปิติพรหรือจิ๊บ อร่ามเรือง อายุ 18 ปี แฟนสาว และด.ญ.มินตรา เปลี่ยนศรี อายุ 11 ขวบ หลานสาว เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อกลางดึกวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นตำรวจสงสัยปมขัดแย้งธุรกิจของนายบุญลือ
ต่อมาเปลี่ยนมามุ่งประเด็นชู้สาวแทน เนื่องจาก นายจตุพร บุตรชาย คบหากับแฟนสาวที่มีเสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันมาติดพันและให้เงินใช้จ่ายอาจแค้นเคืองที่ถูกผู้หญิงตีจากตามข่าวที่เสนอไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ก.ย.
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภาค 2 สั่งการให้ พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น รอง ผบก.ภ. จว.สระแก้ว นำชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลและ ตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่ สภ.อ.คลองหาด โดยมี พ.ต.อ.ธนพล มณีภาค รอง ผบก.หน.ศสส.ภาค 2 นำทีมงานมาร่วมคลี่คลายคดีด้วย จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เบาะแสมือปืนทมิฬ คาดเพียงว่าเป็นคนในพื้นที่ชำนาญเส้นทางหลบหนีและเป็นมืออาชีพระดับพระกาฬ ปฏิบัติการอย่างเลือดเย็น ทำงานด้วยความรอบคอบไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลยและยังไม่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน น่าจะกบดานดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มากกว่า
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธานีวัฒน์ เตียงพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.คลองหาด สั่งการให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บ
ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วและโรงพยาบาลคลองหาดเพิ่มเติม ส่วนนางทองม้วน ภรรยาของ นายบุญลือ อาการสาหัสถูกส่งไปโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ตั้งแต่วันเกิดเหตุยังอยู่ในห้องไอซียูไม่สามารถให้การได้ ซึ่งตำรวจคุมเข้มผู้บาดเจ็บทุกรายเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีอิทธิพลและเป็นญาตินักการเมืองท้องถิ่น เข้าข่ายผู้กว้างขวางในพื้นที่
ส่วนบรรยากาศงานศพที่วัดเขาดิน
ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 1 กม. เพื่อนนักเรียนของ นายจตุพร และ ด.ญ.มินตรา ตลอดจนผู้ปกครองและคณะครูเดินทางมาร่วมงานศพ เรี่ยไรเงินทำบุญช่วยเหลือและรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ด้วย
ขณะที่ นายศานิตย์ นาคสุขศรี รองผวจ.สระแก้ว กล่าวว่า
คดีนี้โหดเหี้ยมมากและไม่น่าเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและเด็กไร้เดียงสาอายุ 11 ขวบ ต้องตายอย่างไม่คาดฝัน นับเป็นเรื่องสะเทือน ขวัญที่สุดของจังหวัด ผวจ.สระแก้ว สั่งการให้ตนประสานตำรวจและติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดรวมทั้งกำชับตำรวจ ทหาร เข้มงวดอาวุธสงครามตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้มากขึ้น
ทางด้าน นายนิพนธ์ นารีรักษ์ อายุ 43 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันเชลล์ หจก.เฟื่องฟ้าบริการ เลขที่ 69 หมู่ 7 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระ แก้ว กล่าวว่า
หลังเกิดเหตุตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำและพยายามหว่านล้อมต่าง ๆ นานา จะให้เข้าไปพัวพันให้ได้ ขอยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ส่วนตัวยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.ปิติพร จริง รู้จักประมาณ 1 ปีมาแล้ว เคยให้เงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนและใช้จ่ายบ้าง เพราะเห็นว่าฐานะยากจน ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกว่านี้ ทุกครั้งที่ น.ส.ปิติพร มาหาจะพาเพื่อนมาด้วย 2-3 คน ไม่เชื่อถามเพื่อน ๆ เขาดูได้ แต่พักหลังไม่อยากยุ่งก็ห่าง ๆ กันไป เมื่อตำรวจขอความร่วมมือก็ยินดี ไม่ว่าค้นบ้าน ขอดูบัญชีเงินฝากธนาคาร ตรวจเสื้อผ้า รองเท้า ยอม หมดทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่าโยงเป็นคนผิด ทุกวันนี้อยู่กับครอบครัวก็มีความสุขดีแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวไปบ้านเลขที่ 202 หมู่ 3 ต.ไทยอุดม อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ที่บำเพ็ญกุศลศพ น.ส.ปิติพร บรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยความสลดหดหู่ โดยพบกับ นายสมสิทธิ์ อร่ามเรือง อายุ 37 ปี และนางปิ่น อร่ามเรือง อายุ 37 ปีบิดามารดาของผู้ตายกำลังต้อนรับแขกเหรื่อและคนคุ้นเคย
โดย นางปิ่น บอกว่า
รู้ข่าวลูกสาวถูกยิงตายแทบช็อกทำอะไรไม่ถูกและไม่ทราบว่าสาเหตุจากอะไร ข่าวว่าเสี่ยปั๊มน้ำมันมาติดพันและให้เงินเป็นหมื่น ๆ ก็ไม่ทราบ แต่เคยได้ยินเพื่อนลูกบอกว่าลูกสาวได้สิทธิเติมน้ำมันรถฟรีเท่านั้น ตอนนี้มืดแปดด้านรอตำรวจจับคนร้ายให้ได้อย่างเดียว ส่วนบุตรสาวไปหา นายจตุพร ที่บ้านเป็นเรื่องปกติของเพื่อน ทั้งคู่เป็นนักฟุตบอลโรงเรียนเดียวกัน การรู้จักกันไม่ใช่เรื่องแปลก.