สองผัว-เมีย ร้อยเอ็ด ขอพูดบ้าง? ปมดราม่า ล็อตเตอรี่ กรูอยู่ไหน!?
จากกรณีของ ปื้ด หรือนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี หนุ่มบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกขโมยลอตเตอรี รางวัลที่ 1 ไป 2 ใบรวมเงิน 12 ล้านบาท พบเบาะแสว่าคนที่นำไปขึ้นเงิน เป็นสามีภรรยาในจังหวัดร้อยเอ็ดสามีภรรยา โดยคนขายลอตเตอรี่เองก็จำไม่ได้ว่าขายไปให้ใครนั้น
ล่าสุดสองสามีภรรยาชาวจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งถูกพาดพิงในกรณีดังกล่าว คือ นายวิทยา ธนทรัพย์สิน อายุ 44 ปี และนางขวัญศิริ ธนทรัพย์สิน สองสามีภรรยา นักธุรกิจชาวจังหวัด จ.ร้อยเอ็ด เข้าให้ปากคำตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้ว ยืนยันว่าซื้อมาเอง ไม่ได้ขโมยใครมา และถูกถึง 3 ใบ 18 ล้าน ไม่ใช่ 12 ล้าน วอนสังคมอย่าพึ่งตัดสินใครถูกผิดให้ฟังความจริงรอบด้าน
นายวิทยา บอกว่า ตนมีอาชีพรับเหมาติดตั้งกระจกและอะลูมิเนียม ช่วงเดือนสิงหาคม ได้มารับเหมางานที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ทำให้ต้องเดินทางไปกลับระหว่างบุรีรัมย์ - ร้อยเอ็ดเป็นประจำ และเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาที่ อ.นางรอง และแวะไปทานอาหารที่ร้านตำแหลกในตัวอำเภอ ตรงข้าม รพ.นางรอง ขณะนั้นมีพ่อค้ามาเดินเร่ขายลอตเตอรี่ ตนเห็นว่ามีเลขท้าย 31 ตรงกับป้ายทะเบียนรถของหลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่เพึ่งไปกราบขอพรมา จึงซื้อไว้จำนวน 3 ใบ กระทั่งวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา จึงได้ตรวจรางวัลและทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 3 ใบ ได้เงินรางวัล 18 ล้านบาท แต่ไม่ได้ไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากเป็นข่าวเนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 60 ตนได้นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินที่กองสลาก เพียง 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท ส่วนอีกใบให้ภรรยานำไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท ในวันที่ 24 ส.ค. 60 สาเหตุที่แยกกันไปเนื่องจากภรรยามีนัดพาพ่อไปหาหมอในวันที่ 24 ส.ค.พอดี โดยหลังจากนั้น ตนยังเดินทางไปทำงานที่ อ.โนนดินแดง และแวะซื้อลอตเตอรี่ กับพ่อค้าเร่คนเดิมอีก 5 ใบ เพราะหวังว่าจะดวงเฮงอีก ซึ่งพ่อค้าก็เหมือนจะจำหน้าได้ จึงถามว่าเฮีย ใช่ไหมที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 สิงหาคม 3 ใบ จึงตอบไปว่า ไม่ใช่ เพราะไม่อยากให้ใครรู้
อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ลอตเตอรีที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวเป็นของตนที่ซื้อเอง ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ ที่แจ้งความอ้างว่าสลากฯ หายมาก่อน และไม่รู้จักเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยสลากฯ ไปด้วย ฝากสังคมและผู้ที่ติดตามข่าวสาร ขอให้ฟังข้อมูลให้รอบด้านอย่าพึ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูก เพราะหลังจากมีการนำเสนอข่าวในทำนองที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ตนเองและครอบครัวได้รับความเสียหาย ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง
CR:::amarintv.com