เวลา 05.30 น. วันที่ 4 ก.ย. ขณะที่นายสมชาย แจ้งบุรี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.12 ต.คลองตะเคียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน กษจ 28 พระนคร ศรีอยุธยา และมีด.ช.วีระพัฒน์ หรือน้องเซฟ ว่ามุข อายุ 3 ขวบ หลานชายนั่งคร่อมอยู่ด้านหน้า และนางรินนภา ภาสดา อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ภรรยานั่งซ้อนท้าย
ขณะขับผ่านมาตามเส้นทางถนนสายหลังศูนย์ราชการมุ่งหน้ามายังวัดใหญ่ชัยมงคล
มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน รจก 163 พระนครศรีอยุธยา เข้ามาประกบติดและคนซ้อนท้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทจากคอของนางรินนภา และใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของเหยื่อเพื่อให้ล้ม แต่ปรากฏว่ารถได้เซล้มไปโดนรถของคนร้ายจนเสียหลักล้มลงไปด้วยกัน นายสมชาย คนขับขี่ได้อุ้มตัวหลานชายเอาไว้ ส่วนนางรินนภาได้ล็อกคอคนร้ายซึ่งเป็นคนขับขี่ไว้ได้ ส่วนคนที่ซ้อนท้ายวิ่งหลบหนีไป ส่วนสร้อยคอทองคำของกลางตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากนั้นพ.ต.ท.เอกภพ ตันประยูร สวป. สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวคนร้ายมาสอบสวน
ทราบชื่อนายพิเชษฐ์ อนุรัตน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.2 ต.คลองสระบัว อ.พระนคร ศรีอยุธยา พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนคนร้ายที่หลบหนีไปได้ชื่อนายเอ้ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 25 ปี บ้านอยู่ ต.คลองสระบัว เคยก่อเหตุเช่นนี้มาหลายครั้ง ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุม
ทั้งนี้ นางรินนภา ภาสดา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผ่านการฝึกอบรมด้านการจับกุมคนร้ายจาก ภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา และยังเป็นตำรวจชุมชนตำบลคลองตะเคียน และอปพร.ด้วย
2สาวใจเด็ดจับโจรกระชากสร้อย
อีกรายเมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย สวป.สภ.ต.พัทยา จ.ชลบุรี
รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำหญิงสาวชาวไทยแต่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ที่หน้าห้างรอยัล พลาซ่า ถ.เลียบชายหาดพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบประชาชนกำลังควบคุมตัวคนร้ายซึ่งอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ทราบชื่อต่อมาคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี โดย มีน.ส.รุ่งนภา จอมแจ้ง อายุ 31 ปี อาชีพเจ้าของร่มให้เช่าชายหาดพัทยา อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.1 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ชี้ให้ตำรวจจับกุม
น.ส.รุ่งนภา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อมาดูแลร่มเตียงบริเวณชายหาดหน้าห้างรอยัล พลาซ่า
ขณะกำลังจะจอดรถ ผู้ต้องหาซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาจากข้างหลัง ได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ของตนจนขาดติดมือ ตนจึงทิ้งรถแล้ววิ่งตามไปถีบรถคนร้ายจนล้มคว่ำพร้อมร้องตะโกนให้คนช่วย กระทั่งนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันจับกุมตัวได้ดังกล่าว ก่อนจะแจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดี