เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ท.ธนวัฒน์ สุมานัส สารวัตรเวร สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ คนถูกยิงตายที่ร้านคเณศ อะไหล่ยนต์ เลขที่ 32/136 ตั้งอยู่ย่านเชียงกง (รังสิต) ถนนพหลโยธิน หมู่ 6 ต.คลองหนึ่ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี ผกก. พ.ต.ท. ทวีศักดิ์ ฤทธาคณานนท์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เมธาพงษ์ บุญศรี รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา เปิด เป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์มือสอง บริเวณหน้าร้านมีกองวัสดุเครื่องยนต์และอะไหล่รถยนต์จำนวนมาก บนชั้น 3 ภายในห้องนอนใกล้ปากประตู พบศพนายนิพัฒน์ มั่นสม หรือเสี่ยพัฒน์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน นุ่งกางเกง ยีนตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ สภาพศพนอนหงายศีรษะพิงขอบประตู ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด ที่ไหล่ขวาทะลุรักแร้ เลือดทะลักนองพื้น ข้อมือขวายังมีเลสทองคำหนัก 10 บาท สวมใส่อยู่ ภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นข้าวของ ทรัพย์สินยังอยู่ครบ ส่วนที่บานเกล็ดหน้าต่างหลังร้านถูกถอดกระจกออกไป 5 บาน หลังตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นได้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน น.ส.จรีพร เต๊ะตานันท์ อายุ 23 ปี หลานสาวผู้ตาย ทำงานเป็นเสมียนประจำร้าน ให้การว่า ช่วง เวลาประมาณตี 5 ขณะนอนหลับอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ไม่กล้าขึ้นไปดู จนกระทั่งเช้าไม่เห็นผู้ตายลงมาเปิดร้าน จึงขึ้นไปที่ห้องก็ต้องตกใจเมื่อพบศพผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนร้ายไม่ ทราบว่าเป็นใคร เพราะผู้ตายเป็นที่รักของลูกค้าและเพื่อน บ้านใกล้เคียง ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือขัดผลประโยชน์ เกี่ยวกับธุรกิจที่ทำอยู่ จะมีสงสัยเพียงนายคมสัน หรือหนึ่ง วงศ์นิยม อายุ 34 ปี หลานชายของผู้ตายอีกคนที่มีลักษณะคล้ายคนติดยา มักจะเทียวมาหาที่ร้านเป็นประจำเพื่อขอเงินผู้ตาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายเพิ่งให้เงินนายคมสันไป 1,000 บาท พร้อมพูดกำชับว่า “อย่าเข้ามาลักของในร้านนะ” หลังจากนั้นก็หายหน้าไป และไม่รู้ว่าย้อนกลับมาที่ร้านอีกหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี ผกก.สภ.อ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องเป็นคนใกล้ชิดและเข้านอกออกในร้านได้ จากการสอบสวนพยานแวดล้อมและประมวลเหตุการณ์คาดว่า คนร้ายเข้ามาพูดคุยเจรจากับผู้ตาย แต่ตกลงกันไม่ได้ ด้วยความโมโหจึงชักปืนออกมายิงใส่ 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่สำคัญทำให้ขาดใจตายคาที่ หลังก่อเหตุคนร้ายตกใจกลัวรีบวิ่งลงไปชั้นล่างถอดบานเกล็ดหลังร้านกระโดดเผ่นหนีไป โดยไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินในตัวผู้ตาย ไม่ว่าจะเป็นเลสข้อมือทองคำหนัก 10 บาท และกระเป๋าสตางค์ยังอยู่ครบ นอกจากอาวุธปืนขนาด 9 มม. ของผู้ตายหายไป แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้สังหารหรือไม่ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายคมสัน หลานชายของผู้ตาย มาสอบสวนอย่างเร่งด่วน อาจเป็นไปได้ว่านายคมสันเข้ามาขอเงินแต่ผู้ตายไม่ให้ หรือย่องเข้ามาขโมยของในร้าน แต่ผู้ตายมาพบเข้าจึงด่าว่า ทำให้บันดาลโทสะชักปืนออกมายิงใส่ดังกล่าว