แล้วในที่สุดตำรวจเมืองอุบลฯ ก็สามารถปิดคดีอุ้มฆ่านายประยูร บุญจำเนียร กับนางสำราญ หินผา สองผัวเมียเอาไว้ได้สำเร็จ
สามารถจับกุมคนร้ายซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านลาว (ขตล.) เอาไว้ได้ 5 คน ในจำนวนนี้มีร.อ.คำเผย สายกงจักร หรือนายสุวรรณ สายบุปผา อดีตทหารลาวฝ่ายขวา วัย 61 ปี อดีตสามีเก่านางสำราญรวมอยู่ด้วย
ทั้งหมดร่วมกันฆ่าสองสามีภรรยาอย่างเลือดเย็น
คดีนี้ถึงแม้ร.อ.คำเผย จะพยายามให้การภาคเสธว่าไม่ได้ฆ่า แต่ก็ยอมรับว่าไม่พอใจที่ทั้งคู่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ขณะที่ตนเองต้องติดคุกในคดีเก่า พอออกจากคุกหวังจะกลับมาอยู่กินกับนางสำราญและลูกชาย ปรากฏว่าภรรยาได้เปิดตัวสามีคนใหม่ พานายประยูรเข้ามาอยู่อาศัยในบ้านอย่างออกหน้าออกตา
เท่านั้นจึงเกิดการเข่นฆ่า!!
ย้อนกลับไปดูเหตุสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นวันที่ 7 ส.ค. ตำรวจสภ.อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุพบศพชาย-หญิงถูกฆ่าทิ้งริมแม่น้ำโดมน้อย ห่างจากหมู่บ้านบก หมู่ที่ 14 ต.กลาง ประมาณ 1 ก.ม. จึงรุดไปตรวจสอบ พบศพนายประยูร อายุ 54 ปี ครูคศ.2 โรงเรียนเขื่องในวิทยาคาร อยู่บ้านเลขที่ 160 บ้านหนองจาน หมู่ 4 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. ที่กลางอกซ้าย 1 นัด และที่ท้ายทอย 1 นัด และนางสำราญ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ร้านสหกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี พักอยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ 11 บ้านทุ่งบูรพา ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ท้ายทอย 2 นัด ในสภาพถูกมัดมือมัดเท้าด้วยสายไฟ
ทั้งคู่ถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้
ตำรวจเมืองอุบลฯ ภายใต้การนำของพล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีนำโดยพ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.อ.เดชอุดม พ.ต.ท.อภิชาต พุทธบุญ หน.ชุดเฉพาะกิจ ภ.จว.อุบลราชธานี ตรวจสอบเบื้องลึกเรื่องนี้ทันที
แก๊งขตล.แค้นรัก อุ้มฆ่าผัว-เมียไทย ลงโทษเมียเก่าทอดทิ้ง
เจ้าหน้าที่สืบรู้มาว่านางสำราญเคยเป็นภรรยาร.อ.คำเผย
อดีตทหารลาวที่เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาไม่นาน ส่วนนายประยูรเป็นสามีใหม่ที่นางสำราญเพิ่งเปิดตัวอยู่กินกัน ในขณะที่ร.อ.คำเผย ถูกจองจำอยู่ในคุกฐานมีส่วนพัวพันในการจัดหาอาวุธและนำพวกขบวนการต่อต้านลาว (ขตล.) บุกยึดด่านวังเตาของประเทศลาวเมื่อปี 2543 รวมทั้งใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอมเมื่อหลายปีก่อน
ทันทีที่ร.อ.แห่งขบวนการลาวขาว พ้นคุกออกมา ทั้ง 2 จึงถูกฆ่า!!
พยานเล่าว่า ก่อนพบศพ 1 วันเห็นคนร้าย 5 คน ซึ่ง 1 ในนั้นคือร.อ.คำเผย ใช้รถกระบะนิสสันสีขาวแบบแค็บ ขับเข้ามาที่บ้านนางสำราญแล้วจับตัวนายประยูรไป
ดังนั้น คนร้ายจะเป็นใครไม่ได้นอกจากร.อ.คำเผย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่าสายไฟที่คนร้ายใช้มัดศพ เป็นสายไฟและสายอากาศทีวีที่คนร้ายดึงจากในบ้านนางสำราญอีกด้วย
ตำรวจพลิกแผ่นดินล่าร.อ.คำเผยทันที
สำหรับสาเหตุการสังหารครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากร.อ.คำเผย คงไม่พอใจที่นางสำราญพาสามีใหม่เข้าบ้าน โดยที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของร.อ.คำเผย สร้างไว้ให้เมียกับลูก แต่พอตนเองพลาดติดคุกภรรยาเลยมีสามีใหม่แถมยังพาเข้าบ้านอีกต่างหาก
เมื่อร.อ.คำเผย ได้รับอิสรภาพจากคุกจึงมาทวงถามเงินค่าก่อสร้างบ้านหวังใช้เป็นทุนไปตั้งตัวใหม่ แต่ถูกปฏิเสธจึงสร้างความไม่พอใจแก่ร.อ.คำเผย
คำสั่งตายจึงถูกหยิบยื่นให้กับคนทั้งสอง
ตำรวจใช้เวลาไม่นานในการตามล่าอดีตผู้กองทหารลาว เจ้าหน้าที่สืบรู้ว่าร.อ.คำเผย หนีไปกบดานอยู่กับนางทับทิม สืบสนิท ซึ่งเป็นลูกสาวที่บ้านเลขที่ 460 หมู่ 5 บ้านดงแสนสุข ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่จึงถือหมายจับเข้ารวบตัวผู้กองคำเผยทันที
ร.อ.คำเผยให้การภาคเสธ ว่า ไม่ได้ฆ่าทั้ง 2 คน
แต่ยอมรับว่าเกลียดทั้งคู่มานานแล้ว เพราะภรรยาไม่เคยไปเยี่ยมดูแลเลย นอกจากไม่ดูแลแล้วยังทิ้งขว้างลูกชายวัย 6 ขวบอีกด้วย ปล่อยให้ไปอาศัยอยู่กับตายาย แต่ตนก็ไม่เคยคิดฆ่าแกงแต่อย่างใด เพราะไม่มีประโยชน์ แต่ทว่าคำให้การของร.อ.คำเผยก็ขัดกับคำให้การของพยานที่ระบุว่าในวันนั้นเห็นร.อ.คำเผยพาลูกน้องไปอุ้มนายประยูรถึงบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงเบนเข็มไปเช็กความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกน้องร.อ.คำเผย
การเช็กหาบุคคลกลุ่มนี้ไม่ยากเย็นอะไร เพราะรายชื่อขบวนการต่อต้านลาวส่วนใหญ่อยู่ในมือเจ้าหน้าที่หมดแล้ว ไม่นานตำรวจก็ได้รายชื่อลูกน้องร.อ.คำเผย ประกอบด้วย นายสมพงษ์ หรือตะวัน คำแสง อายุ 22 ปี นายพรชัย ดาราแสง อายุ 43 ปี นายคำหล้า ไชยวงษ์ อายุ 26 ปี นายหลิง เคนสุวรรณ อายุ 37 ปี นายอุบล หรือเล่ง ทองหยิบ อายุ 20 ปี นายวัน เคนสุวรรณ อายุ 33 ปี และนายกี๋ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 30 ปี วันที่ 26 ส.ค. ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดเอาไว้ได้ ยกเว้นนายสมพงษ์กับนายกี๋ ที่ยังหลบหนีไปได้
ทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อหา
กลุ่มคนร้ายยอมรับว่า อยู่ในขบวนการต่อต้านลาวที่มีร.อ.คำเผย เป็นหัวหน้ากลุ่ม เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ร.อ.คำเผยได้เรียกพวกตนมาประชุมที่บ้านลูกสาว เพื่อวางแผนจับตัวนายประยูรกับนางสำราญมารีดเงินและฆ่าทิ้ง สาเหตุเพราะนางสำราญตีตัวออกห่างและมีสามีใหม่ หลังการประชุมได้นัดแนะลงมือในวันที่ 6 ส.ค. โดยสายวันนั้นนายกี๋ ได้ขับรถยนต์โตโยต้าสีเขียวไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมารับคนทั้งหมดไปที่บ้านของคนตาย และนายหลิงได้โทรศัพท์ไปเรียกนายประยูรให้มาพบ เมื่อนายประยูรหลงกลเดินทางมาถึง คนทั้งหมดร่วมกันจับตัวนายประยูรมัดมือมัดเท้าอุ้มขึ้นรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดสีบรอนซ์หมายเลขทะเบียน บพ 952 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นรถของคนตายขับออกไปจากบ้านเกิดเหตุ ระหว่างทางนายหลิงได้โทรศัพท์เรียกนางสำราญให้ออกมารออยู่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีเพื่อเตรียมอุ้มเป็นรายต่อไป
เมื่อรถแล่นมาถึงจุดที่นางสำราญรออยู่ ทั้งหมดก็ลงไปบังคับลากตัวนางสำราญขึ้นมาบนรถ
ก่อนขับมุ่งหน้ามาที่กลางทุ่งนาบ้านบก ต.กลาง อ.เดชอุดม เพื่อบังคับให้บอกหมายเลขรหัสบัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ที่ทั้งคู่มีเงินฝากอยู่บัญชีละ 10,000 บาท หลังคนตายยอมบอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม ร.อ.คำเผย นายกี๋ นายหลิง ก็ใช้อาวุธปืน 11 ม.ม. จ่อยิงคนทั้ง 2 ภายในรถคนละ 2 นัด โดยใช้หมอนรองทำเป็นที่เก็บเสียง หลังจากยิงคนทั้ง 2 ตาย ก็นำศพไปทิ้งลงข้างสะพานข้ามแม่น้ำลำโดมใหญ่ ก่อนขับรถของคนตายไปทิ้งไว้ที่หลังสถานีขนส่ง อ.เดชอุดม และพากันขับรถของนายกี๋ตระเวนกดเงินสดของผู้ตายออกมาแบ่งกัน ก่อนพากันแยกย้ายหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกจุด ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนทันที หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้รอดยาก