รวบแล้ว!! 4 ผู้ต้องหาโหด ยําดับคนขับกะป๊อ

รวบแล้ว 4 ผู้ต้องหารุมกระทืบลุงโชเฟอร์ รถกะป๊อในซอยโชคชัย 4 ดับ สาเหตุจากรถเฉี่ยวชนกันก่อนหน้า ผู้ต้องหาสารภาพอ้างบันดาลโทสะและมึนเมา พบ 3 ใน 4 ผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกดำเนินคดีมาก่อน ทั้งคดียาเสพติด การพนันและลักทรัพย์ในเคหสถาน

จากกรณีนายสัจจา ปราศรัย อายุ 63 ปี โชเฟอร์รถกะป๊อในซอยลาดพร้าว-วังหิน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คนรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดหน้าพงษ์สุข อพาร์ตเมนต์ โชคชัย 4 ซอย 36 เมื่อสี่ทุ่มของวันที่ 1 ก.ค. มีพยานระบุสาเหตุเกิดจากการขับรถเฉี่ยวกันก่อนหน้า

ความคืบหน้า ที่ สน.โชคชัย เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก. สส.สน.โชคชัย ร่วมแถลงผลการจับกุม 4 ผู้ต้องหารุมทำร้ายร่างกายนายสัจจา ปราศรัย อายุ 63 ปี เสียชีวิต ประกอบด้วย นายอาทิตย์ สอนดอนไพร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 868/2560 นายสุรเชษฐ โพธิ์จาด อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 869/2560 นายอำพล คลังทอง อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาที่ 870/2560 และนายณรงค์ชัย รักล้วน อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 871/2560 ของกลางรถ จยย.ยามาฮ่า นูโวสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และรถ จยย.ซูซูกิ สแมซ สีส้ม ทะเบียน 3 กส 6339 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.ศานิตย์เผยว่า จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุผู้ตายมีอาชีพขับรถรับจ้างซูบารุ หรือรถกะป๊อ ในซอยลาดพร้าว-วังหิน ขับรถเฉี่ยวชนกับรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโวสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีนายสุรเชษฐขับขี่ นายอาทิตย์นั่งซ้อนท้าย ที่บริเวณโชคชัย 4 ซอย 36 แยก 4 ก่อนกลุ่มผู้ก่อเหตุจะตามนายสัจจามาถึงบริเวณลานจอดรถของพงษ์สุขอพาร์ตเมนต์และรุมทำร้ายจนนายสัจจาไปเสียชีวิตที่ รพ.เปาโล โชคชัย 4 ทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากันก่อน อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

ด้านนายอาทิตย์รับสารภาพก่อเหตุจริง ที่ทำไปเพราะบันดาลโทสะก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเบียร์กับกลุ่มเพื่อนที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 4 คน จากนั้นแยกย้ายกันกลับที่พัก ขณะนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ของนายสุรเชษฐ ถูกรถกะป๊อที่ผู้ตายขับเฉี่ยว ทำให้ขาข้างขวาเป็นแผล นายสุรเชษฐจึงขี่รถ จยย.ตามไปเอาเรื่อง ก่อนจะโทรศัพท์เรียกนายอำพลและนายณรงค์ชัยมาช่วยรุมทำร้าย ที่ทำไปนั้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบและมึนเมา อยากขอโทษกับญาติผู้ตายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

จากการตรวจสอบประวัตินายสุรเชษฐเคยถูกจับกุม ในคดีเสพยาเสพติดในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 54 นายอาทิตย์ถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดและการพนันทายผลฟุตบอลในพื้นที่ สน.โชคชัย เมื่อปี 58 ส่วนนายอำพลเคยถูกศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี สั่งจำคุกในคดีลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวตำรวจคุมตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีตามฐานความผิดของแต่ละบุคคล