เมื่อเวลา 22.00น. วันที่3 ก.ค. พ.ต.ต.ธนภณ เอี่ยมสะอาด สว.(สอบสวน) สทล.2 บก.8บก.ทล.
ฝนตกถนนลื่นพ่วง 18 ล้อ เสียหลัก หักขวาชนกระบะ
ด้านนายนฤพงษ์ เดชศรี อายุ 25 ปี คนขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน บร6874 ระยอง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกลงมาทำให้พื้นถนนเปียก โดยตนขับรถอยู่เลนที่ 3 ขณะที่รถบรรทุกพ่วงอยู่ที่เลนซ้ายสุด ตนจึงขับแซงขึ้นไปแต่รถพ่วงได้หักเข้ามาทางขวางอย่างกระทันหันตนจึงเบรกและพยายามหักหลบแต่ไม่พ้นรถพ่วงได้ชนเข้าบริเวณหน้ารถของตนก่อนจะพุ่งตกลงไปด้านล่าง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ
ด้านนายณัฐพล กล้าเสมอ อายุ 34ปี ขับขี่รถกระบะ อีซูซุ ดีแมค ทะเบียน กญ6988 กทม. เปิดเผยว่าขณะนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก ตนกำลังจะขับรถกลับบ้านพร้อมกับลูกชายวัย13ปี ที่ซอยหทัยราษฎร์6 หลังจากลงทางด่วนจตุโชติ ขับเข้าเส้นโค้งตัวเอส เพื่อรอดใต้ด่วนจตุโชติ จราจรรถชลอตัวขับตามกันมาเรื่อยๆ ก่อนที่ตนจะได้ยินเสียงโครม และมีหินตกมาใส่กระจกหน้ารถ พร้อมกับเห็นรถพ่วงคันดังกล่าวลอยลงมา จึงรีบเร่งเครื่องเพื่อให้พ้น แต่ด้านหน้ามีเสาหินตกลงมาพอดีจึงตัดสินใจเบรครถ ทำให้รถพ่วงตกลงมาทับบริเวณท้ายกระบะรถ หลังการตรวจร่างกายว่าไม่เป็นอะไร จึงลงจากรถไปดูคนขับรถพ่วง ซึ่งก็เดินลงมาจากรถ สภาพปากแตก พร้อมกับกล่าวขอโทษถนนมันลื่น ทั้งนี้ตนตกใจมากเหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดไวมาก คิดว่าจะไม่ลอดแต่ตนเชื่อว่าที่ไม่เป็นอะไรเพราะวันนี้ตนห้อยพระสมเด็จ เนื้อเหล็กไหลของหลวงพ่อประทวน วัดถ้ำดาวเขาแก้ว จ.สระบุรีมาด้วย
ด้านพ.ต.ต.ธนภณ เอี่ยมสะอาด สว.(สอบสวน)สทล.2 บก.8 บก.ทล. กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถบรรทุกพ่วง ขับอยู่เลนซ้ายสุดก่อนจะหักเปลี่ยนเลนขวากระทันหันทำให้เฉี่ยวชนกับรถกระบะโตโยต้า จากนั้นรถบรรทุกพ่วงได้พุ่งลงมายังถนนด้านล่างซึ่งสูงประมาณ3เมตร ไปทับรถกระบะอีซูสุ ที่ขับผ่านมาพอดี ส่วนรถบรรทุกอีกคันที่ขับมาเจอเหตุได้เบรกกระทันหันจนเสียหลักพุ่งชนขอบสะพานเอง อย่างไรก็ตามได้แจ้งข้อหา"ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย" แก่คนขับรถบรรทุกพ่วงซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่รพ. หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนทางหลวงและสอบปากคำพยานทั้งหมดเพื่อสรุปคดีต่อไป