เร่งตามตัวหนุ่มเยอรมันเพื่อนร่วมลัทธิสอบสวน ไขปมคดีแหม่มเกาะเต่าผูกคอดับ

เร่งตามตัวหนุ่มเยอรมันเพื่อนร่วมลัทธิสอบสวน ไขปมคดีแหม่มเกาะเต่าผูกคอดับ

รองผบช.ภ.8 พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกาะเต่าคลี่คลายคดีแหม่มสาวชาวเบลเยี่ยมเสียชีวิตบนเกาะเต่า เร่งตามตัวหนุ่มเยอรมันเพื่อนร่วมลัทธิอินเดียมาสอบสวน ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเต่า ร้องสอบข้อมูลสื่อออนไลน์ท้องถิ่น เสนอข่าวโจมตีการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รองผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ แสงศิริโชติ รองผบก. ลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า เพื่อติดตามคดีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมผูกคอตายเสียชีวิตบนเกาะเต่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยที่มีสื่อออนไลน์ สมุยไทม์ และเฟซบุ๊ก เพจ CSILA ลงข่าวนำเสนอว่าการเสียชีวิตของน.ส.เอลิส ดัลเลมานจ์ นักท่องเที่ยวชาวเบลเยียม วัย 30 ปี ด้วยวิธีการผูกคอ น่าจะเป็นการเสียชีวิตที่มีพิรุธ เช่นเดียวกับทางนางมิเชล ฟาน เอทเทน มารดาของผู้ตายที่ไม่เชื่อว่าลูกสาวผู้คอตาย

จากนั้น พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ แสงศิริโชติ พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ. สภ.เกาะเต่า พ.ต.ท.นพา เสนาทิพย์ รอง ผกก. สอบสวน ร่วมกันเข้าตรวจสอบทริปเปิลบี บังกะโล ซึ่งเป็นบังกะโลที่ผู้ตายเข้าพักและเกิดไฟไหม้ พร้อมทั้งเชิญพนักงงานมาสอบสวนปากคำ

ซึ่งจากการสอบสวนปากคำ ทราบว่าน.ส.เอลิสเข้ามาติดต่อห้องพักเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 เม.ย. และมีสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้เดินทางขนาดใหญ่ โดยระบุต้องการห้องพักที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เข้าพักลงชื่อ สกุล ครั้งแรกน.ส.เอริเซ่ได้ลงชื่อจริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบจากพาสปอร์ต เพื่อลงเลขประจำตัวน.ส.เอลิสปฎิเสธ โดยอ้างว่าต้องการพักผ่อนก่อน หลังจากนั้นก็ได้ขีดฆ่าชื่อสกุลกลาง ก่อนเปลี่ยนเป็นดีฟอีสแทน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเจอตัวน.ส.เอลิสอีกเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ก็เกิดเพลิงไหม้ที่ห้องพักของน.ส.เอลิส และลุกลามไปติดห้องใกล้เคียงอีก 3 หลัง หลังจากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่พบศพน.ส.เอลิส และจำลองเหตุการณ์เพื่อเชื่อมโยงความเป็นไปได้

ขณะเดียวกันมีกลุ่มนักธุรกิจและผู้ประกอบการการท่องเที่ยวบนเกาะเต่า นำโดยนายสุนทร ศรีสังข์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเกาะเต่า เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบช.ภ.8 ให้ดำเนินการตรวจสอบการนำเสนอข่าวของสื่ออนไลน์สมุยไทม์ โดยให้เหตุผลว่าการนำเสนอข่าวหลายครั้งของสื่อดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ท่องเที่ยว และใช้ข้อความที่ผิดไปจากความเป็นจริง จงใจให้เกาะเต่าถูกเกลียดชัง หวาดกลัวและสับสน กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

พล.ต.ต.ชลิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์นำเสนอข่าวของสื่อออนไลน์ไทย และสื่อต่างประเทศ พล.ต.ท.ธเนตร์ พินเมืองงาม ผช.ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.8 สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เร่งดำเนินการคลี่คลายข้อสงสัย และตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีชันสูตร โดยให้สอบสวนในประเด็นเพิ่ม เช่น กรณีกระเป๋าเดินทางที่ถูกส่งไปยัง จ.ชุมพร ซึ่งการตรวจสอบและสอบสวนผู้เกี่ยวข้องประเด็นนี้ พบว่ากระเป๋าของผู้ตายถูกลืมทิ้งไว้บนเรือโดยสารของ บ.เรือเร็วลมพระยา ซึ่งเดินทางออกจากเกาะพะงัน ไปยังจ.ชุมพร เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ผู้ตายเดินทางเข้าเกาะเต่า ไม่ได้เป็นการถูกส่งไปจากเกาะเต่า ส่วนประเด็นศพถูกสัตว์กัดแทะนั้น สอบสวนปากคำเจ้าหน้าที่เก็บศพและผู้พบศพ เพื่อยืนยันสภาพศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้บันทึกภาพและขั้นตอนการเก็บศพอย่างละเอียด และประกอบอยู่ในสำนวนการสอบสวนคดีชันสูตร ไม่ได้เป็นไปตามคำกล่าวหาของมารดาผู้เสียชีวิต ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่บันทึกภาพขณะเกิดเหตุและที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.ชลิต กล่าวอีกว่า ส่วนการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้น ได้เร่งรัดให้ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ประสานกับตำรวจสันติบาล ตำรวจท่องเที่ยว และตรวจคนเข้าเมือง เร่งติดตามนายรามัน อันเดรียส ชาวเยอรมัน ผู้คลั่งไคล้ลัทธิสัตยะ สาอี บาบา ที่ผู้ตายมีความสนิทสนมด้วย และมักจะเดินทางมาหานายรามันที่ประเทศไทยบ่อยครั้ง โดยรายงานล่าสุดทราบเพียงว่านายรามัน ใช้ถิ่นพำนักอยู่ที่อ่าวศรีธนู บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งหากเราพบตัวนายรามันก็อาจจะทำให้ทราบถึงสาเหตุของการเสียชีวิตได้

ส่วนกรณีการตรวจสอบสื่อออนไลน์สมุยไทม์นั้น พล.ต.ต.ชลิต กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ทราบว่าตำรวจสันติบาลร่วมกับกองปราบปราม ดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว คาดว่าจะมีการรายงานผลการปฏิบัติโดยตรงต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล1 ได้ลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหาข่าวตรวจสอบสำนักงานสมุยไทม์ สื่อออนไลน์ ที่คาดว่าเปิดสำนักงานที่เกาะสมุย แต่จากการตรวจสอบทราบมาว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 ปี สมุยไทม์เคยทำสื่อหนังสือพิมพ์วางจำหน่ายอยู่ที่เกาะสมุย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำหนังสือพิมพ์ แต่ยังคงทำเว็บไซต์ข่าวออนไลน์อยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบสำนักงานของเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามต่อไป

รายงานอีกด้านหนึ่งระบุว่า ก่อนหน้าที่น.ส.เอลิสจะมาเสียชีวิตที่เกาะเต่านั้น ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะพะงันมาเป็นระยะเวลา 18 เดือน และไปเข้ากลุ่มลัทธิสัตยะ สาอี บาบา หรือไส บาบา หัวหน้ากลุ่มเป็นชายชาวเยอรมัน สมาชิกของกลุ่มนี้จะเป็นชาวต่างชาติด้วยกัน ที่มีสภาพจิตซึมเศร้าและมีปัญหาส่วนตัว จึงเข้าร่วมกลุ่มเพื่อบำบัด

จากแหล่งข่าวอ้างว่าลัทธิสัตยะ สาอี บาบา หรือ ไส บาบา อดีตมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เสียชีวิตเมื่อปี 1918 อ้างว่ากลับชาติมาเกิด ได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสดาทางจิตวิญญาณจากสาวกผู้ศรัทธาหลายล้านคนทั่วโลก จากการมีอำนาจเหนือธรรมชาติ รวมทั้งความสามารถที่จะเสกวัตถุด้วยอากาศ สามารถระลึกชาติได้และรักษาโรคร้ายขั้นรุนแรงได้ ที่ผ่านมาสัตยา ไสบาบา ยังได้สร้างอาณาจักรโรงเรียน "ไสบาบา" และศูนย์ต่างๆ ที่ได้ช่วยแพร่อิทธิพลของเขาไปทั่วโลก


เร่งตามตัวหนุ่มเยอรมันเพื่อนร่วมลัทธิสอบสวน ไขปมคดีแหม่มเกาะเต่าผูกคอดับ


เร่งตามตัวหนุ่มเยอรมันเพื่อนร่วมลัทธิสอบสวน ไขปมคดีแหม่มเกาะเต่าผูกคอดับ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์