ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่22 มิถุนายน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นางสาวรัชนก บุญทาทอง นางสาวรัชฎาพร บุญทาทอง บุตรสาวของ นายจำลอง บุญทองทา และมารดาคือนางบัว บุญทองทา ที่ถูกนาย นายกฤษณะชัย จันทราศรี อดีตเภสัชกร อดีตสามี นางสาวรัชฎาพร ใช้มีมีดแทงพ่อตาแม่ยายเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 มกราคม 2548 ที่ผ่านมา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวตนได้สั่งให้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค(บช.ภ.)5 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุม จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) แจ้งว่าสามารถจับกุม นายกฤษณะชัย จันทราศรี อายุ51 ปี ชาว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ในท้องที่ สน.ดอนเมือง และ นางสาวยุพิน ปานลอยวงค์ อายุ 28 ปี ชาว ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี จับกุมได้ที่ จ.ชลบุรี ลูกจ้างร้านขายยาของนายกฤษณะชัย เบื้องต้นศาลจังหวัดเชียงรายออกหมายจับทั้ง2 ราย ข้อหา ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ขณะที่ นางสาวรัชฎาพร กล่าวว่า ตนอยู่กินกับอดีตสามี 2ปี ทุกอย่างดี เขาเป็นคนโมโหร้าย พยายามขอมีเพศสัมพันธ์ตลอด และทุบตีจนทนไม่ไหว จึงขอเลิก แต่กลับถูกข่มขู่ว่าถ้าเลิกจะถูกฆ่าทั้งครอบครัว ตนจึงหนีออกมาอยู่กับญาติที่กรุงเทพ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งในงานศพอดีตสามีก็ยังโทรศัพท์มาข่มขู่ว่าไตำรวจไม่มีทางจับได้ ซึ่งเรื่องราวผ่านมากว่า 12-13 ปี แต่ทางคดีไม่เคยคืบหน้า โดยพี่เขยของอดีตสามีเป็นตำรวจใหญ่ในจังหวัดเชียงรายขณะนั้นด้วย ประกอบกับน้องชายอดีตสามีก็เป็นครูในโรงเรียนที่น้องสาวเรียนอยู่ ทำให้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลา
ด้าน นางสาวรัชนก กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายกฤษณะชัย จันทราศรี สามีของน.ส.รัชฎาพร พี่สาว
เหตุเกิดเมื่อตอนตี1.40 นาที ปี 2548 ขณะนั้นตนอายุ 15 ปี โดยคืนนั้น มีคนมาที่บ้าน เมื่อพ่อกับแม่เปิดออกไปพบเป็นพี่เขย ก่อนที่ตนจะเห็นว่าพี่เขยและผู้หญิงอีกคนกำลังใช้มีดจ้วงแทงพ่อและแม่อยู่ ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่าพ่อกับแม่นอนจมกองเลือด ถึงแม้จะรอดมาได้ แต่ตนต้องอยู่ในสภาพหวาดระแวงตลอดเวลา ต้องกินยาระงับประสาท ตลอด12 ปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบข่าวการจับกุมคนร้ายญาติของผู้เสียชีวิตได้ร่ำไห้พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวที่ช่วยนำเสนอข่าวจนสามารถจับกลุ่มคนร้ายได้ หลังเกิดเหตุ 13 ปีคดีไม่คืบหน้า ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและถูกข่มขู่มาโดยตลอด รู้สึกสบายใจขึ้นที่สามารถจับกุมคนร้ายได้
นายกฤษณะชัย รับว่า ก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่ด้วยปัญหาที่สะสมมากับน.ส.รัชฎาพร บุญทาทอง อดีตภรรยา จึงชักชวน นางสาวยุพิน (ลูกจ้าง) ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไปบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดปากเสียงและใช้อาวุธมีดที่นำติดตัวไปลงมือทำร้ายโดยไม่รู้ตัว และหลบหนีไป จนกระทั่งปี2554ย้ายมาอยู่ในพื้นที่สน.ดอนเมือง ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ขายอาหารตามสั่ง และเปิดร้านขายของชำใช้ชีวิตกับภรรยาใหม่ หลังก่อเหตุ2ปีตนสำนึกผิดมาโดยตลอด และคิดว่าครอบครัวผู้เสียหายจะให้อภัย แต่พอมีข่าวออกมาทราบว่าครอบครัวผู้เสียหายอยู่อย่างทุกข์ทรมานมาตลอด13ปี จึงรู้สึกสงสาร และอยากให้ครอบครัวผู้เสียหายอภัยและอโหสิกรรมให้ ไม่ได้หวังว่าตนเองจะพ้นผิด แต่การให้อภัยคือสิ่งที่จะทำให้พ้นทุกข์และเขาจะมีชีวิตที่มีความสุขตลอดไป