คุมตัว ‘วัฒนา' สอบเค้น เจ้าตัวรับก่อเหตุระเบิดกรุงมาแล้ว 6 ครั้ง ฝ่ายความมั่นคงหิ้วเมีย-หญิงคนสนิทสอบหนักค่ายทหาร แฉซื้อดินดำย่านสะพานพระราม 7 ประกอบระเบิด พร้อมพบไปป์บอมบ์ที่บ้านพัก 4 ลูกรอวางบึ้มวันสัญลักษณ์
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อดีตวิศวกรไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายวัฒนาให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดไปป์บอมบ์จริง โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุเมื่อเวลา 23.18 น. วันที่ 9 เม.ย.50 มีการวางระเบิดในตู้โทรศัพท์สาธารณะของบริษัททีโอที สีส้ม ด้านหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน ถ.พหลโยหล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ทำให้ตู้โทรศัพท์ได้รับความเสียหายไฟลุกไหม้พังยับเยิน จนประชาชนที่เดินอยู่บริเวณใกล้เคียงแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นการก่อกวน ไม่ประสงค์ให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการทำระเบิดครั้งนี้จะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ก่อน เพราะไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน ส่วนครั้งที่ 2 เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 พ.ค.50 เหตุระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24 ครั้งที่ 3 เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 ก.ย.50 เกิดเหตุระเบิดบริเวณด้านข้างกรมแผนที่ทหารบก ติดกับกองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กทม. เนื่องจากไม่ชอบพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ส่วนครั้งที่ 4 เกิดเหตุระเบิดด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าวันที่สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 ได้อยู่จุดดังกล่าวและมีผู้เสียชีวิต สำหรับครั้งที่ 5 ลอบวางระเบิดบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 มีผู้เสียชีวิตจุดนี้จำนวน 1 ราย โดยเหตุการณ์ทั้ง 5 จุดเป็นเพียงแค่การข่มขู่ที่ไม่หวังเอาชีวิตประชาชน
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า และจุดที่ 6 คือระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตัดสินใจที่จะวางระเบิดและใส่ตะปูนำไปวางไว้ที่ห้องวงษ์สุวรรณ เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ในวันที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่ช่วงปี 53 จึงตัดสินใจไปวางระเบิดที่โรงพยาบาลทหารในวันที่ครบรอบรัฐประหาร ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่านายวัฒนาจะดำเนินการเพียงคนเดียว เพราะเวลาที่ก่อเหตุตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 10 ปี หากยังจับนายวัฒนาไม่ได้เชื่อว่าจะมีแผนการวางระเบิด เพราะพบไปป์บอมบ์พร้อมทำงานภายในบ้านของนายวัฒนาอีก 4 ลูก ซึ่งในช่วงเวลานี้ยังไม่มีเหตุการณ์สำคัญหรือวันสัญลักษณ์จึงยังรอคอยเวลาเพื่อก่อเหตุในครั้งต่อไป
รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุและที่บ้านพักที่ตรวจพบทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าอีโอดีจะรวบรวมทั้งหมดส่งตรวจเพื่อหาความเชื่อมโยง เช่น ลวดที่ตัดเป็นท่อนๆ นำมาทำเป็นสะเด็ดระเบิดโดยทางนายวัฒนาได้ตัดลวดที่บ้านพัก และมีอีกส่วนหนึ่งเหลืออยู่ ทางเจ้าหน้าที่จะนำไปพิสูจน์ว่ามาจากชิ้นเดียวกันหรือไม่
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวภรรยาของนายวัฒนาไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พร้อมกับควบคุมตัวเพื่อนสาวคนสนิทของนายวัฒนาไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน4รอ.) สนามเป้า เพื่อขยายผลในคดีต่อไปว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ทั้งนี้ผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อดินดำที่ร้านค้าย่านสะพานพระราม 7 เพื่อนำมาประกอบระเบิด
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ระหว่างการสอบสวน นายวัฒนามีสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่ให้ความร่วมมือตอบคำถามกับทางพนักงานสอบสวนด้วยดีตลอดกว่า 2 ชั่วโมง