ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ได้เดินทางไปที่บ้านของตาและยายของ "น้องรุ้ง" ที่ จ.ร้อยเอ็ด พบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด โดยผู้เป็นตาบอกว่า จะไม่ยอมอภัยให้กับแม่น้องรุ้งเด็ดขาด
วันที่ 14 มิ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ต.แสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อพบกับนางสายสมร จงทรงชัย และนายสุบรรณ มณฑาผาย ตาและยายของน้องรุ้ง
โดยยายของน้องรุ้ง เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง โดยก่อนหน้านี้ แม่เด็กซึ่งเป็นลูกสาวตนเองได้มารับน้องรุ้งไปอ้างว่าจะพาไปเที่ยวแล้วจะส่งหลานกลับมา และปกติ หลานสาวเป็นเด็กดี ค่อนข้างจะเก็บตัวเงียบ ไม่มีปัญหากับใคร ช่วยงานตนเองทุกอย่าง แม้แต่ยามว่างรับจ้างทั่วไป ในขณะที่ตนเองกับตา หากินด้วยการเก็บหอยมาต้มขายรายได้วันละ 200-300 บาท เพื่อดูแลหลาน 2 คน คือน้องรุ้งและหลานสาว ที่เป็นลูกของลูกสาวคนเล็กที่มาฝากไว้ก็พออยู่ได้ เสียใจมากที่ตนเองให้หลานไปกับแม่แล้วไปโดนฆ่าตายแบบนี้
ส่วนตาของน้องรุ้ง บอกว่า ตนเองไม่คิดเลยว่าลูกสาวตัวเองจะก่อเหตุฆ่าลูกของตัวเองได้ ทีแรกมีข่าวเกิดขึ้นตนเองไม่เชื่อ แต่เมื่อน้าผู้ตายลงไปดูและยืนยันว่าใช่ ก็เสียใจมาก และไม่คิดว่าแม่จะโหดร้ายร่วมมือกะสามีฆ่าลูกตนเองได้ และเชื่อว่าแม่มีส่วน ซึ่งอำมหิตมาก แถมหลังเกิดเหตุแล้วแทนที่จะแจ้งมาให้ตายายทราบ กลับยังพาสามีหลบหนีอีก ดังนั้นตนจะไม่ยอมอภัยให้ และต้องการให้รับกรรมที่ทำกับลูกเช่นนี้
แม้ตอนนี้ตนเองจะมีเงินอยู่แค่พันกว่าบาท ก็จะลงไปรับศพหลานมาทำพิธีให้ได้ ตอนนี้รอเพียงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้ไปรับศพกลับมาบ้านก็จะไปรับทันที
ด้าน นายพงษ์เทพ ศรีจันทร์ ผอ.โรงเรียน ท่าลาดวารีวิทยา พร้อมครูและนักเรียนในโรงเรียนที่น้องรุ้งเรียนอยู่ ได้รวบรวมเงินกันได้ 1,800 บาท แล้วนำมามอบให้กับทางตาและยายของน้องรุ้งเพื่อเป็นทุนค่าเดินทางในการไปรับศพหลานมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป