ที่แท้ สายตำรวจ ร่วมฆ่าเจ้าของตะวันนา

หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันสังหารเจ้าของตะวันนา เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว ที่แท้เป็นสายให้ตำรวจ ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ในขณะที่ตำรวจมีหลักฐาน เป็นคนส่งปืนให้มือลั่นไกยิงผู้ตาย
       
       วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ลาดพร้าว พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว แถลงข่าวจับกุม นายโสภณ ทองใส อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 2 แขวงและเขตสะพานสูง กทม.ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายสุเทพ ครุธโป่ง อายุ 36 ปี เสียชีวิต และนายโยธิน ครุธโป่ง อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลางหัวกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 นัด ที่ได้จากศพ นายสุเทพ ครุธโปร่ง อายุ 36 ปี
       
       พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น.ที่ศูนย์การค้าตะวันนา ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายโยธิน ครุธโป่ง อายุ 39 ปี เข้าที่เอวขวา และกกหูขวา นายสุเทพ ถูกยิงเข้าที่บริเวณสีข้างซ้ายตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิตขณะนำตัวส่ง รพ.ส่วน นายเสรี สิงหาทอ อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณหน้าท้อง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกติดตามตัวคนร้าย และทราบว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายโสภณ และนายวุฒิชัย ขวัญแก้ว อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลอาญาที่ 2625/25550 และ 2526/2550 ลงวันที่ 27 ส.ค.2550 ต่อมา นายโสภณ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุสมควร
       
       พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเขม่าดินปืนติดบริเวณข้อมือ และลำตัวของนายโสภณ แต่จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า นายโสภณเป็นผู้ส่งอาวุธปืนให้กับนายวุฒิชัยเป็นผู้ลงมือยิง นอกจากนี้ นายโสภณ ยังทำหน้าที่เป็นสายสืบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว แต่ถึงเป็นสายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐาน ว่า นายโสภณ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาล ซึ่งสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากการขัดผลประโยชน์ทางการค้า โดยบริเวณศูนย์การค้าตะวันนากลุ่มผู้ค้าได้มีการแบ่งแยกเป็นกลุ่มและมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง
       
       ด้าน นายโสภณ ให้การปฏิเสธ ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งอยู่ท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณศูนย์การค้าตะวันนา ต่อมาตนได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกัน จึงเดินเข้าไปดูพบกลุ่มของผู้ตายประมาณ 10 คน กำลังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของนายวุฒิชัย ตนจึงรีบเข้าไปห้ามปรามจนทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันไป จากนั้นจึงได้เดินออกมานั่งที่รถยนต์ ระหว่างที่ตนกำลังนั่งอยู่ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกันอีก ตนจึงเดินเข้าไปดูอีกรอบและพบนายเอ็ม ไม่ทราบนามสกุล อาชีพขายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ในศูนย์การค้าดังกล่าว และเป็นลูกน้องของตน ได้ส่งอาวุธปืนให้กับนายวุฒิชัย จากนั้นนายวุฒิชัยจึงได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงเข้าไปที่กลุ่มของผู้ตาย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับนายเอ็มนั้น ตนไม่ทราบว่า ได้อาศัยอยู่ที่ใดและขณะนี้ได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่ไหน
       
       นายโสภณ กล่าวด้วยว่า นายสุเทพ ทราบว่า ได้ประกอบอาชีพขายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ภายในศูนย์การค้าดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่นายสุเทพก่อเหตุทะเลาะวิวาทนั้น คาดว่า น่าจะมาจากขณะที่ตนเป็นสายให้ตำรวจได้เคยจับกุมหลานชายของผู้ตาย ในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งยังเคยถูกกลุ่มของผู้ตายทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และยังเคยถูกขู่ฆ่าหลายครั้ง

ที่มา ไทยรัฐ