ความคืบหน้าคดี "สามเฌรปลื้ม" หรือ นายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ถูกฆ่าโบกปูนฝังไว้ในวัดวังตะวันตก อ.เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนจับกุมแก๊งมาเฟียโหด นายเด่นชัย ภูมินิยม หรือพระเด่น อายุ 36 ปี นายสุริยา หรือสามเณรสุริยา อายุ 18 ปี และ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว อายุ 40 ปี ภรรยาของนายเด่นชัย นายนที หรือเบ็นซ์ ศรีดอน อายุ 24 ปี ยังเหลืออีกคนชื่อนายคิงส์ เป็นเยาชนอายุ 17 ปี ยังหลบหนีนั้น
ปชช.ร่วมงานฌาปนกิจ"เณรปลื้ม"
เมื่อบ่ายวันที่ 11 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดวังไทร หมู่ 7 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ถึงการฌาปนกิจศพสามเณรปลื้ม ว่า มีการตั้งเมรุลอยกลางลานวัดวังไทร โดยหลังการประกอบพิธีเผาหลอกเสร็จสิ้นในช่วงเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ ท่ามกลางพระภิกษุ สามเณร และประชาชนนับพันคน โดยการฌาปนกิจจริง หรือเผาจริง ถูกกำหนดไว้ในเวลา 19.00 น.โดยมีพระภิกษุ และสามเณร พร้อมประชาชนมาร่วมฌาปนกิจจริงในคืนนี้จำนวนมากแน่นวัด
ฮือฮา!เชื่อดวงวิญญาณเณรรับรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการวางดอกไม้จันท์ ท้องฟ้าทีมีแสดสาดส่องร้อนอบอ้าวทั่วบริเวณวัด แต่ปรากฏว่าท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม สร้างความร่มรื่นทั่วบริเวณ แต่เขตรอบนอกวัดกลับมีแสงแดดสาดส่องร้อน เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้ที่ร่วมอยู่ในพิธี จนกระทั้งช่วงเริ่มวางดอกไม้จันท์ เกิดลมพัดกรรโชกรุนแรงและมีฝนตกปรอยลงมาอย่างต่อเนื่องกัน จนผู้ที่ร่วมพิธีเปียกชุ่ม แต่ก็ฝนตกในระยะเวลาเพียง 5 นาที เท่านั้น ก่อนหยุดตกและท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างจ้าเหมือนเดิม ทำให้ผู้ที่มาร่วมในพิธีแปลกประหลาดใจไปตามๆ กัน โดยเชื่อว่าดวงวิญญาณของสามเณรปลื้มรับรู้ และดลบันดาลให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น
พระครูชี้เณรปลื้มเป็นคนดีมาก
พระครูสุนทรกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังไทร กล่าวด้วยน้ำตานองใบหน้าว่า สามเณรปลื้มเป็นสามเณรที่ดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว เป็นที่รักของพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั้งหมู่บ้าน หลังจากบวชจำพรรษาอยู่วัดวังไทร ได้สึกออกไปฝึกรำมโนราห์ ชื่อ "มโนราห์ปลื้ม ศ.ภิญโญสองหิ้ง" แต่เห็นว่าไปไม่ไหวด้วยปัจจัยหลายประกาศ จึงกลับมาบวชสามเณรอีกครั้ง และจำพรรษาอยู่วัดวังตะวันตก ที่เกิดเหตุถูกฝัง แต่ก็ยังไปมาหาสู่ และติดต่อกับทางอาตมา พระภิกษุ สามเณรในวัดวังไทร รวมทั้งชาวบ้าน ครู อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนบ้านสันยูง ที่สามเณรปลื้มเรียนจบชั้น ป.6
ตั้งเมรุลอยปลดปล่อยดวงวิญญาณ
"อาตมาเห็นว่าการที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้านนำศพฝังดินกลางวัดวังตะวันตก ทำให้ร่างกายและดวงวิญญาณสามเณรปลื้ม เจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส อาตมาจึงตั้งเมรุลอยขึ้นมาเพื่อให้การเผาศพอยู่บนที่สูง สามเณรปลื้มจะหมดความทุกข์ และดวงวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์ แม้อาตมาจะไม่เคยมีลูก แต่อาตมารู้สึกถึงความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เหมือนสามเณรปลื้มเป็นลูกของอาตมาจริงๆ จึงตั้งใจบำเพ็ญกุศลศพสามเณรปลื้มให้ดีที่สุด และส่งดวงวิญญาณให้ไปสู่สุคติ" เจ้าอาวาสวัดวังไทร กล่าวด้วยน้ำตานองใบหน้า
เจ้าคณะฯหารือสร้างอนุสาวรีย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เทศนากล่าวถึงการตายของสามเณรปลื้ม เป็นการตายที่มีคุณค่า มีสาระ สมควรยกย่องเป็น "วีรบุรุษ" เพราะทำให้เกิดการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในวัดวังตะวันตก และวัดทั่วประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น และหน่วยงานรัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลการบริหารวัดอย่างต่อเนื่อง
"กรณีสามเณรปลื้ม จึงเป็นการมรณภาพที่มีคุณค่าอย่างมาก ในวงการภิกษุ สามเณร และประชาชน จะปรึกษากันว่าจะมีการสร้างอนุสาวรีย์สามเณรปลื้มเพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนสติในวงการสงฆ์ และประชาชนทั่วไป เพราะในสังคมแม้แต่สัตว์ตายก็ยังสร้างอนุสาวรีย์หลายราย ดังนั้น สามเณรปลื้มเห็นว่าเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะสร้างอนุสาวรีย์เช่นกัน"
ชาวบ้านหนุนมีบุญคุณต่อวัด
นายสมเดช แสงสุริวงศ์ ชาวบ้านที่ทำงานอยู่ใกล้กับวัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการเข้ามาช่วยเหลือวัดของทางทหารแล้ว ตนและชาวบ้านจำนวนไม่น้อยอยากให้มีการจัดสร้างรูปปั้นของสามเณรปลื้ม นำมาตั้งไว้ภายในวัดเพื่อระลึกถึงสามเณรผู้นี้ ให้ชาวพุทธได้รับรู้ว่า ในครั้งนี้ชีวิตของสามเณรรูปนี้ได้สังเวยไปเพื่อให้ความจริงกระจ่างและปรากฏออกมา ถือเป็นความดีอย่างหนึ่งที่เป็นบุญคุณต่อวัดต่อชาวบ้านที่นี่
แฉเงินวัดหายไปกว่า40ล้าน
นายสมเดช กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตนได้เคยเข้ามาช่วยงานของวัดมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้เป็นกรรมการวัด ก่อนที่ทีมของ น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว อรุณสกุล จะเข้ามาวัดมีเงินอยู่ราว 40 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันน่าจะไม่มีเงินหลงเหลือแล้ว เนื่องจากถูกโยกถูกโอนย้ายถ่ายเทไปจนหมด แม้กระทั่งบัญชีของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งตนเชื่อว่าอดีตเจ้าอาวาสก็ไม่เหลือเงินอยู่เลย
โยมแม่ฝันเห็นเณรมาหา2ครั้ง
ขณะที่ นางกัญญา มินกระโทก โยมแม่สามเณรปลื้ม เปิดเผยว่า ตั้งแต่บำเพ็ญกุศลศพสามเณรปลื้ม วิญญาณสามเณรปลื้ม ปรากฏให้เห็น 2 ครั้ง ขณะที่ตนกำลังนอนหลับเฝ้าหน้าโลงศพของสามเณร โดยครั้งแรกวิญญาณสามเณรปลื้ม ปรากฏให้เห็นในภาพนุ่งห่มจีวร ยืนที่ปลายเท้าตน ใบหน้าเศร้าสร้อยเหมือนจะบอกอะไรตนสักอย่าง แต่ฟังไม่ได้ยินเสียงใด ก่อนร่างจะค่อยๆ หายไป อาจเป็นเรื่องคนร้ายที่ฆ่าสามเณรปลื้ม เพราะตำรวจยังจับคนร้ายดำเนินคดีได้ไม่ครบ
จี้ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว
นางกัญญา กล่าวอีกว่า โดยหลังจากเผาศพสามเณรปลื้มตนจะติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างจริงจัง เพราะแม้ตำรวจจะจับกุม น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว อรุณสกุล นายเด่นชัย หรืออดีตพระเด่นชัย ภูมินิยม สามี และพรรครวม 4 คน ไปแล้ว แต่ตนเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมให้หมด และขอให้รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว
ไม่เชื่อลูกชายมีนิสัยขี้ขโมย
นางกัญญา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่าสามเณรปลื้มขโมยเงินสด สร้อยคอทองคำ และไอโฟนนั้น ตนไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด เพราะมั่นใจในนิสัยของลูกชายไม่เคยมีนิสัยขี้ลักขี้ขโมยมาก่อน แม้แต่ขอเงินซื้ออะไรก็แล้ว แค่ตนใช้ให้ไปหยิบเองในกระเป๋าสามเณรปลื้ม ก็ไม่กล้าหยิบเอง ต้องให้ตนเป็นคนหยิบให้ทุกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อเหตุขโมยทรัพย์สิน น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว หากสามเณรปลื้มขโมยจริงจะกลับไปวัดให้เขารุมฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทำไม คงหนีออกจากวัดไปไม่ดีกว่าหรือ
มีคนเห็นเหตุการณ์แต่ไม่มีใครช่วย
"แก๊งมาเฟีย น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ อยากให้ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียด เพราะเท่าที่ทราบเคยก่อเหตุทำร้ายพระภิกษุ สามเณร หลายครั้ง แม้แต่วันที่รุมทำร้ายสามเณรปลื้ม ก็มีพระภิกษุ สามเณร และฆราวาส อยู่ในเหตุการณ์หลายคน แต่ไม่มีการใครเข้าไปช่วยหรือเล่าความเหตุการณ์ที่ทำร้ายสามเณรให้คนนอกฟัง จนวิญญาณของสามเณรปลื้มต้องเข้าสิงร่าง และตามหลอกหลอนพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานในคดีนี้ จนต้องวิ่งไปเล่าเรื่องราวรายละเอียดให้ตำรวจ เรื่องถึงแดงขึ้นมาดังกล่าว" แม่สามเณรปลื้ม กล่าว
โดนพวกพระเด่นรุมตีในศาลาเก็บของ
ขณะที่ นายประเสริฐ เงินสองสี อายุ 68 ปี ลุงของสามเณรหนึ่ง (สงวนชื่อจริง) ซึ่งบวชเรียนพร้อมกับสามเณรปลื้ม ที่วัดวะตะวันตก เผยว่า ก่อนที่จะพบศพสามเณรปลื้มนั้น สามเณรหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ในขณะที่อดีตพระเด่นชัย พร้อมพวกใช้ไม้รุมตีสามเณรปลื้ม ถึงแม้สามเณรปลื้มจะร้องขอชีวิต ภายในศาลาเก็บของ ใกล้ที่ศพสามเณรถูกฝัง ตอนนั้นมามีพระและสามเณรหลายรูปเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยอดีตพระเด่นชัย อ้างว่าที่ใช้ไม้ตีสามเณรปลื้ม เพราะสามเณรปลื้มขโมยเงิน
ไม่มีใครกล้าหือเพราะถูกถูกฆ่า
จากนั้น นายเด่นชัย จึงนำสามเณรปลื้มที่ได้รับบาดเจ็บ ไปที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมแจ้งตำรวจว่า สามเณรทะเลาะวิวาทกัน ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำสามเณรปลื้ม ไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่อดีตพระเด่นชัย ไม่พาไปโรงพยาบาล จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นและติดต่อสามเณรปลื้มได้อีกเลย ก่อนหน้านี้สามเณรหนึ่ง ยังเล่าให้ฟังอีกว่า กลุ่ม น.ส.บิว และอดีตพระเด่นชัย เคยรุมทำร้ายทุบตีพระ สามเณร และฆราวาสในวัดวังตะวันตกบ่อยครั้ง จนไม่มีใครกล้าหือ
"พระ สามเณร และฆราวาส ในวัดวังตะวันตก ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นในวัดวังตะวันตก แต่ไม่มีใครกล้าปริกปากพูดถึงพฤติกรรมของ น.ส.บิว และอดีตพระเด่นชัย พร้อมพวก เพราะกลัวถูกทำร้ายหรือถูกฆ่า เพราะ น.ส.บิว และอดีตพระเด่นชัย พูดจาข่มขู่ฆ่า พระและสามเณร" นายประเสริฐ กล่าว
Cr:::naewna.com