ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายแก่กาย ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควรโดยมีอาวุธโดยใช้กำลังประทุษสลายร่วมการพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง 14 ร่วมกันใช้มีดพกยาว 50 เซนติเมตร 1 เล่มไปที่หอพักบ้านเกรียงไกรเลขที่ 153/2 ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี บุกเข้าไปที่ห้องพักเลขที่ 13 ใช้กำลังประทุษร้ายทำร้ายร่างกายนายศิวรักษ์ นาโค ชกต่อยไปตามร่างกายหลายครั้งใช้ขวดตีที่ศีรษะ 1 ครั้งใช้มีด 1 เล่มฟันแขนขวาของนายศิวรักษ์ได้รับอันตรายและที่หน้าผาก จำเลยใช้กำลังประทุษร้ายนายธนพล พุทธมา โดยใช้ไขควงแทงที่โหนกแก้มซ้ายหนึ่งครั้ง ได้รับอันตรายแก่กาย
ซึ่งจำเลยที่ 3 ,5 ,6 ,10 ,12 และ 14 ไม่ได้มีเจตนาฆ่าได้ทำร้ายร่างกายนายธีรพงศ์ หรือน้องปอนด์ ฐิตะฐาน อายุ 24 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี
โดยจำเลยที่ 3 ,5 ,6 ,10 ,12 และ 14 ชกต่อยแล้วทำร้ายร่างกายนายธีรพงศ์หลายครั้งและเสียชีวิตโดยอาการเลือดออกในสมอง
ส่วนจำเลยที่ 1, 2 ,4, 7, 8 ,9 ,11 และ 13 มีเจตนาฆ่านายธีรพงศ์ ใช้ไขควงปลายแหลมเป็นอาวุธแทงนายธีรพงศ์ที่ขมับศีรษะด้านขวาทะลุผ่านกะโหลกศีรษะเข้าไปในเนื้อสมองจนฉีกขาด และมีเลือดออกในสมอง ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
โดยตำรวจยึดด้ามไขควงสีเหลือง-ดำจากที่เกิดเหตุต่อมาวันที่ 1 มีนาคม60 เจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยที่ 1 ได้ขณะที่จำเลยที่ 2 เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม60 จำเลยที่ 3 -10 เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน วันที่ 4 มีนาคม60 จำเลยที่ 11 และ 12 เข้ามอบตัว และวันที่ 5 มีนาคม60 จำเลยที่ 13 และ 14 มอบตัว พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับจำเลยทั้ง 14 ชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 14 ให้การปฏิเสธ
ต่อมาวันที่ 6 มิ.ย. ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลยที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 14 แถลงว่ายังไม่ได้แต่งตั้งทนายความ ศาลเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต จำเลยทั้ง 14 จึงแถลงว่าจะตั้งทนายความเข้าต่อสู้คดีเอง
ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อประชุมคดีและสอบคำให้การจำเลยทั้ง 14 ในวันที่ 4 ก.ย.60 เวลา 09.00 น
โดยศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 -14 ตีหลักทรัพย์คนละ 7 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญไม่ได้รับการประกันตัวยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ