เปิดต้นทุน!!!! คดีเปรี้ยว จำเป็นหรือไม่?? กับค่าเครื่องบินตำรวจเยอะขนาดนี้!!!

จากกรณี "เปรี้ยว - เอิน - แจ้" สิ่งที่วิจารณ์กันหนาหูแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ "การควบคุมตัวผู้ต้องหา" ที่มีภาพหลุดระหว่างควบคุมตัวแสนสุดจะชิล ที่เชียงราย และส่วนที่สอง คือ "กระบวนการนำตัวผู้ต้องหา" ทั้ง 3 สาว จากจังหวัดเชียงราย เข้ากรุงเทพฯ ให้ผบ.ตร. ได้มาสอบปากคำและแถลงข่าวด้วยตัวเอง

เกิดการตั้งคำถามว่ากระบวนการนำตัว 3 สาวผู้ต้องหา จากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ โดยใช้ "เครื่องบิน" จากกองบินตำรวจ ที่กรุงเทพ ขึ้นไปเชียงราย เพื่อรับ 3 ผู้ต้องหา และคณะนายตำรวจ มายังกรุงเทพฯ ใช้เวลาขาไปบวกกับขากลับ รวมเวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง หรือ ขาละชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่จะนำ 3 ผู้ต้องหาไป ให้ "ผบ.ตร.สอบปากคำ" ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

จากนั้น ตำรวจก็ควบคุมตัวผู้ต้องหาและคณะ กลับไปขึ้นเครื่องบินตำรวจอีกครั้ง คราวนี้ มุ่งหน้าบินไปยังจังหวัดขอนแก่น สถานที่ที่เกิดเหตุฆาตกรรม เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ใช้เวลาบินอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมง แต่ทว่าไปถึงขอนแก่นก็เป็นช่วงหัวค่ำมืด จึงทำแผนฯไมได้ทันที ส่วนเครื่องบินตำรวจก็ต้องบินกลับมาประจำการที่กองบินตำรวจดังเดิม รวมแล้วจาก กทม. ไปขอนแก่น จากขอนแก่นกลับ กทม. ใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมง ในการบิน

เครื่องบินตำรวจที่นำตัวผู้ต้องหาบินไปบินมา คือ เครื่องบิน CASA รุ่น CN 235 - 200 M เป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง น้ำหนักรวม 16,500 กิโลกรัม บรรทุกผู้โดยสารได้ 30 ที่นั่ง ประจำการเมื่อ พ.ศ. 2539

เครื่องบินรุ่นนี้มี 2 เครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คิดเป็นตัวเงิน จะอยู่ที่ประมาณ 61,133 บาท/ชั่วโมง