ชายฉกรรจ์บุกรื้อ เต็นท์เช่าขายของ

ชายฉกรรจ์บุกรื้อ เต็นท์เช่าขายของ

..

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.45 น. วันที่ 26 ส.ค. ร.ต.อ.นพดล เจริญทรัพย์ หัวหน้าสายตรวจ สน.มักกะสัน รับแจ้งมีเหตุชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน เข้าไปรื้อทำลายเต็นท์ขายของ บริเวณปากทางเข้าวัดอุทัยธาราม ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. นำกำลังไปตรวจสอบ พบเต็นท์ผ้าใบร้านค้า ประมาณ 30-40 เต็นท์ จาก 200 เต็นท์ ถูกล้มเสาแล้วกรีดหลังคาผ้าใบจนขาดวิ่น ข้าวของภายในเต็นท์ถูกทุบพังกระจาย ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์หัวเกรียนที่บุกรื้อทำลายได้ขึ้นรถหลบหนีไปหมดแล้ว โดยผู้เสียหายเจ้าของเต็นท์ระบุว่ากลุ่มนักเลงหัวไม้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย นั่งรถกระบะและรถตู้ หมวดทะเบียนจังหวัดราชบุรีและนครปฐมมาลงมือ โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที  

นายสำรวย หน่องพงษ์ อายุ 48 ปี หรือป๋ารวย อาร์ซีเอ เจ้าของกิจการเต็นท์ให้เช่าทั้งหมด เปิดเผยว่า เมื่อ 20 ปีก่อนได้รู้จักกับนายสุรพันธ์ บงการกช เจ้าของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลกว้างประมาณ 10 เมตร ความยาวประมาณ 200 เมตร เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ และให้เช่าพื้นที่ดังกล่าวทำมาหากิน โดยเก็บค่าเช่าเดือนละ 1.5 หมื่นบาท ตกลงทำเป็นสัญญากันด้วยวาจา ตนจึงตั้งเต็นท์ให้เช่าประมาณ 200 เต็นท์ แล้วเก็บค่าเช่าจากพ่อค้าแม่ค้า ต่อมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้ตกลงทำสัญญาเช่าอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร กระทั่งเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของพื้นที่ได้ลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรูอยู่ด้านใน จำเป็นต้องใช้เส้นทางผ่านเต็นท์ค้าขาย ทำให้ เจ้าของและหุ้นส่วนต้องการพื้นที่คืน โดยขอยกเลิกสัญญาเช่า พร้อมกับฟ้องขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ จากนั้นนำป้ายซึ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งศาลไปติดประกาศตั้งแต่กลาง เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ตนเห็นว่ายังไม่สามารถหาพื้นที่ขายของรองรับบรรดาพ่อค้าทั้งหมดได้ จึงนัดเจรจากับเจ้าของที่ในวันที่ 27 ส.ค. นี้ แต่ก็มาเกิดเหตุบุกรื้อทำลายเต็นท์เสียหายยับเสียก่อน ซึ่งจะให้ตำรวจติดตามผู้รับผิดชอบมาชดใช้ค่าเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงให้เจ้าของเต็นท์ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน  


ต่อมาเวลา 10.30 น. นายลือ นาคพยนต์ อายุ 60 ปี พ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ด พร้อมพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทางเข้าวัดอุทัยธาราม ประมาณ 20 คน ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.มักกะสัน เพื่อให้ติดตามกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ลงมือมารับผิดชอบค่าเสียหาย พ่อค้าเหยื่อมาเฟียกล่าวว่า ร้านค้าทั้งหมดพวกตนตั้งขายมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จ่ายค่าเช่าที่มาตลอด แบ่งเป็นจ่ายค่าเช่ารายวัน วันละ 40 บาท และค่าเช่าเต็นท์อีกเดือนละ 500 บาท ส่วนค่าเช่ารายปี จะเก็บทุกกลางปีและสิ้นปี ตกร้านละ 5,000-6,000 บาท ไม่เคยติดค้างค่าเช่าแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยากให้เจ้าของที่ดินออกมาแสดงความรับผิดชอบในส่วนของค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการย้ายร้านค้าออกไปจากบริเวณดังกล่าวนั้น พวกตนอยากขอขายของต่อไปก่อนจนถึงสิ้นปี เมื่อครบกำหนดแล้วจะรีบย้ายออกทันที ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็มีการนำป้ายประกาศมีข้อความระบุว่า ให้ผู้ที่ใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเคลื่อนย้ายออก หากไม่มีการเคลื่อนย้ายออกจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งก็คิดว่าคงไม่น่าจะมีอะไร เนื่องจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็เคยมีการนำป้ายประกาศที่มีข้อความในลักษณะใกล้เคียงกันมาติดไว้ เมื่อไปสอบถามกับนายสำรวยแล้วได้รับคำตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้สามารถเคลียร์กันได้ ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์ รุนแรงอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าน่าจะมีการพูดคุยกันดีๆก็ได้ ไม่น่าใช้ความรุนแรงเข้ามาแก้ปัญหา นายลือกล่าว 


ด้าน พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ 2) กล่าวว่า คดีนี้มี พ.ต.ท.ปัญญาพงษ์ ปัญญาวัชรากร พนักงานสอบสวน (สบ 3) เป็นเจ้าของคดี เมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเบื้องต้นไว้ 1 ราย ส่วนร้านค้าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประมาณ 40 ร้าน มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,200,000 บาท โดยในวันนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้แล้วประมาณ 20 กว่าราย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนเพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่น พร้อมทั้งจัดส่งกำลังสายตรวจไปเฝ้าป้องกันเหตุร้ายตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์