สำนักงานพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์เตรียมหารือแนวทางในการดูแลวัดวังตะวันตก ขณะที่บิดาของสามเณรไม่เชื่อว่าสามเณรจะขโมยเงิน มั่นใจเกิดจากสาเหตุอื่น ญาติได้ออกตามหาตัวเณรตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสามเณรปลื้ม หรือนายศุภโชค เอกเกียรติกุล แล้วฝังไว้ภายในวัด ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครศรีธรรมราช และคณะสงฆ์ปกครองในระดับอำเภอ ได้หารือร่วมกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 มิ.ย. 60) เพื่อหาแนวทางในการเข้าไปบริหารจัดการวัดอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุแล้ว 3 รายคือ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล เป็นผู้จัดการบัญชีวัดทั้งหมดโดยไม่มีคณะกรรมการวัด,นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น สามีของ น.ส.ปิยฉัตร และนายสุริยา กุศลสุข หรืออดีตพระสุริยา สองรายหลังให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าทำแผนประทุษกรรม และอยู่ในระหว่างขยายผลสอบสวนไปหาผู้ที่มีส่วนในการฆาตกรรมและอำพรางซ่อนเร้นศพอีกรวมเกือบ 10 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา นายชวน เอกเกียรติกุล บิดาของสามเณรปลื้ม ซึ่งประกอบอาชีพอยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมารอรับศพสามเณรปลื้มที่อยู่ระหว่างการชันสูตรที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี โดยแพทย์ชันสูตรได้นัดหมายให้มารับศพวันนี้ (3 มิ.ย. 60) โดยบิดากล่าวว่า ไม่เชื่อข้อกล่าวหาที่สามเณรขโมยเงิน เนื่องจากรู้นิสัยของสามเณรดี จะเป็นคนตรง พูดจาโผงผาง ปากไว ไม่ชอบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ก่อนที่จะหายตัวไปนั้นได้โอนเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่ช่วงเดือนมกราคมไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ขณะที่ญาติได้ออกตามหา
"โทรเบอร์สามเณร มีผู้ชายรับบอกว่าสามเณรไปธุระ แต่หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ญาติมาติดตามถึงที่วัด มาพบผู้หญิงและผู้ชาย อ้างว่าไม่พบเห็นสามเณร ไม่ทราบไปไหนจึงพยายามตามหามาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดพบว่าลูกถูกฆาตกรรมไปแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไปให้ถึงที่สุดกับกลุ่มคนที่ก่อเหตุ"
ส่วนศพของสามเณรยังคงอยู่ที่ศูนย์นิติเวชสุราษฎร์ธานี หลังจากแพทย์ชันสูตรเสร็จจะส่งมอบคืนให้ญาตินำกลับวันนี้ ซึ่งญาติจะนำไปประกอบพิธีที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ภูมิลำเนาเดิมของสามเณร