เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่บ้านห้วยบาก ม.6 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หมู่บ้านของน.ส.เปรี้ยว
ปรียานุช โนนวังชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ ‘น้องแอ๋ม' จากการสอบถามชาวบ้าน และเพื่อนบ้าน ที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ตอนเด็กๆ เปรี้ยวเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่ และไม่เคยมีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดี ซึ่งในสังคมไทบ้านหากลูกบ้านไหนทำตัวไม่ดี ชาวบ้านก็จะรู้กันทั่ว แต่สำหรับเปรี้ยวไม่เคยมีชื่อเสียงในด้านไม่ดีเลย แต่พอเขาโตขึ้นก็ออกไปเรียนและไปทำงานที่ตัวจังหวัด นานๆ จะกลับมาที โดยเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว ให้พ่อแม่ใช้จ่าย ถือว่าเป็นเด็กกตัญญูคนหนึ่ง เมื่อตอนรู้ข่าวทุกคนตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และสงสารพ่อแม่ของเขา โดยเฉพาะแม่เขาที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ยิ่งเมื่อตอนรู้ข่าวยิ่งป่วยหนัก อย่างไรก็ตามอยากให้เขามามอบตัว อยากให้มาต่อสู้คดี
ขณะที่ นายบุญยิ่ง พงษ์คำผาย ผู้ใหญ่บ้านห้วยาก ม.6 ต.คำม่วง เข้าเยี่ยม นางสาคร ภาษี อายุ 62 ปี แม่ของน.ส.เปรี้ยว ที่มีอาการเครียดหนักหลังลูกสาวตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย
โดย นางสาคร กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีลูกทั้งหมด 5 คน มีเปรี้ยว เป็นคนสุดท้อง แต่ก็เหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นคนกตัญญูกับพ่อแม่มากที่สุดเมื่อเทียบกับลูกคนอื่นๆ ส่วนบ้านที่สร้างเมื่อเขาได้เงินมาก็จะนำมาทยอยสร้าง แต่เนื่องจากได้มาครั้งละไม่มากก็ต้องทยอยให้ทั้งค่าสร้าง และค่าวัสดุก่อสร้าง เพราะไม่มีเงินมากที่จะนำมาสร้างได้ในครั้งเดียว และเวลาเขามาก็ให้แม่ครั้งละ 500 บาท ให้พ่อ 200 บาท เมื่อไม่มีเขาอยู่แล้วก็คงต้องหวังพึ่งลูกสาวคนโตมาดูแล รวมทั้งอาศัยเบี้ยคนพิการ และรับจ้างทั่วไป ใครมาจ้างทำอะไรก็ไปเอาเงินมาซื้อข้าวซื้อน้ำกิน
"อยากบอกเปรี้ยวว่าเมื่อทำความผิดไปแล้วก็อยากให้มามอบตัวจากหนักก็จะได้เป็นเบา เพราะสิ่งที่เขาทำผิดไปแล้วนั้นมันเอาคืนไม่ได้ เมื่อวันที่ไทบ้านมาบอกข่าวว่าเปรี้ยวฆ่าคนแม่ล้มลงทันที หัวใจไม่รู้ว่าตกหายไปไหน จากนั้นมาก็นอนไม่ค่อยได้ต้องกินยานอนหลับเป็นกำๆ เพื่อให้นอนได้ แม้หมอจะบอกไม่ให้กินเยอะ แต่ก็ต้องกินเพื่อให้นอนหลับ เพราะถ้าไม่ได้นอนก็จะคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้คิดถึงลูกมาก เขาเป็นลูกคนเล็กที่พึ่งพาอาศัยได้มากที่สุด และถ้าขาดเปรี้ยวไปทุกอย่างในชีวิตเหมือนพังทลาย บ้านที่สร้างอยู่ก็คงไม่เสร็จ และต้องอยู่ในสภาพนี้เพราะเราก็ไม่มีปัญญาสร้างต่อได้"นางสาคร กล่าว
แม่ของเปรี้ยว กล่าวอีกว่า อยากให้ลูกมามอบตัวเมื่อเราทำความผิดแล้ว เขาคงไม่มาทำอะไรโหดร้ายกับเรา ตอนนี้เป็นห่วงลูกมาก กลัวลูกไม่ได้กินข้าว เพราะมัวแต่หนีหัวซุกหัวซุน ไม่ได้หลับได้นอนสบายเหมือนนอนอยู่บ้าน เพราะต้องหลับๆตื่นๆ ต้องนอนที่ไหนไม่รู้ หรือว่าอาจต้องนอนในป่า โดยหลังเกิดเหตุเปรี้ยวไม่ติดต่อมาเลย เราก็ไม่ติดต่อไป เพราะเอาโทรศัพท์ไปไว้ไหนก็ไม่รู้เป็นหลงๆลืมๆหมดแล้ว ยืนยันว่ายังอยากให้ลูกมามอบตัว ถ้ายังไม่ตายจากกันวันหนึ่งคิดว่าน่าจะยังได้เห็นหน้าลูก อยากกอดอยากหอมลูก ทุกปีใหม่สงกรานต์เขาจะเอาพวงมาลัยมากราบตีนล้างตีนแม่ เปรี้ยวนี่แหละพี่เป็นห่วงแม่ เป็นที่พึ่งของย่า พ่อและแม่ และเป็นที่พึ่งของแม่ เขาเป็นคนที่ต้องต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เขาไปรับจ้างซักผ้าที่ตลาด และหลังเลิกลากับแฟนเก่าก็ไปร้องเพลงคาราโอเกะ ได้เงินมาให้พ่อ แม่ และย่า ส่วนเพื่อนเปรี้ยวที่ร่วมก่อเหตุนั้นไม่รู้จักใครเลย แต่ตอนนี้สำหรับแม่ก็เหมือนตายทั้งเป็น