จากกรณีเหตุสยองฆ่าหั่นศพสาวสวยจับยัดถังน้ำฝังดินโดยศพถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม คือ "น้องแอ๋ม- น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย" อายุ 22 ปี สาวร้านคาาราโอเกะ กระทั่งตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย คือนายวศิน อายุ 22 ปี , น.ส.จิดารัตน์หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี , น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี และน.ส.กวิตาหรือเอิร์น อายุ 25 ปี ทั้งหมดสงวนนามสกุล ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ ซึ่งต่อมาสามารถจับกุม นายวศิน ซึ่งให้การอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าน้องแอ๋มและ น.ส.จิดารัตน์ได้ให้การอ้างว่าวันเกิดเหตุ ตนเองอยู่ที่กทม. จนกลายเป็นกระแสสังคมเกรงว่าทั้งสองคนจะได้รับโทษน้อยลงตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความชื่อดัง เจ้าของเพจ@ทนายคู่ใจ ได้ออกมาโพสต์ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโทษสูงสุดการประหารชีวิตในคดีดังกล่าว ระบุ โดยปกติการฆ่าคนตายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ระวางโทษสูงสุดประหารชีวิต ต่ำสุดจำคุก 15 ปี แต่ถ้ามีเหตุตามมาตรา 289 ที่ได้ระบุไว้ว่า ผู้ใดฆ่าบุพการี, ฆ่าเจ้าพนักงาน ที่ทำตามหน้าที่, ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน, ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน รุณโหดร้าย, ฆ่าเพื่อเตรียมการเพื่อความสะดวกในการทำความผิด และการฆ่าเพื่อจะปกปิดความผิดอื่นของตนเอง ต้องระวางโทษประหารชีวิตสถานเดียว ซึ่งในส่วนนี้ ตนมองว่าแก๊งดังกข่าวจะเข้าข่ายความผิดอยู่หลายข้อ แต่ที่แน่ชัดที่สุดคือการฆ่าผู้อื่นโดยการทรมาน
ในส่วนของข้อสงสัยเรื่องการหั่นศพนั้น ในทางกฎหมายคาดว่า คนร้านน่าจะมีผู้แนะนำให้ทำ เนื่องจากเป็นช่องว่างขอกฎหมายไทย ที่หากไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า บุคคลนั้นได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งการหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ เป็นการทำให้เจ้าหน้าที่ตามร่องรอยยาก ทั้งยังทำให้การพิสูจน์อัตตลักษณ์บุคคลยากยิ่งขึ้นไปอีก สุดท้ายศพดังกล่าวอาจจะกลายเป็นบุคคลนิรนามก็ได้ ซึ่งในความผิดของการอำพราง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพนั้น ต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือการที่ไม่มีเหตุอันควรในการเคลื่อนย้าย ทำลายหรือทำให้ศพเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษดังกล่าวนั้นเบากว่าการฆ่าคนมาก และหากสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไม่ได้ก็รอดกันทั้งแก๊ง แต่ถ้าจับได้ว่าเป็นการหั่นศพเพื่ออำพรางก็ไม่สามารถรับโทษที่มากกว่าการฆ่าคนตายนั้นระวางโทษสูงสุดคือการประหารชีวิตอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากการที่คนร้ายจะอ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แค่ทำร้ายแต่ผู้ตายดันตายเอง ตรงนี้ตนมองว่าเป็นเพียงข้ออ้างของคนร้ายที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าศาลท่านจะพิจารณาได้ว่าข้ออ้างดังกล่าวนั้นฟังขึ้นหรือไม่ เนื่องจากโดยปกติวิสัยของคน หากผู้ที่เราทำร้ายจนสาหัสนั้น สามารถขับรถพาส่งโรงพยาบาลได้ทันที ซึ่งทั้ง 4 คนก็ไม่ถูกข่มขู่ใดๆ สามารถพาตัว "น้องแอ๋ม"ไปรักษาตัวได้ ในจุดนี้ทำให้ตนเชื่อมั่นว่า สุดท้ายทั้งแก๊งฆ่าหั่นศพจะได้รับโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต นอกจากนี้พฤติกรรมของแก๊งดังกล่าวที่โหดผิดมนุษย์ขนาดนี้ ตนคิดว่าไม่น่าใช่ครั้งแรกและไม่สามารถทำได้เพียงคนแค่ 4 คนเท่านั้น จึงอยากให้ตำรวจไปสอบสวนคนหายในพื้นที่เพิ่มเติม และสืบหาการประวัติการติดต่อของทั้ง 4 คน สุดท้ายอาจจะเจออะไรที่มากกว่านี้ก็ได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
