โจ๋แก๊งยาสัตหีบงามหน้าปล้น-ตื้บฝรั่ง

เมื่อเวลา 04.30 น.ของวั นที่ 26 ส.ค. ได้เกิดเหตุฝรั่งวิศวกรบริษัทผลิตน้ำมันประเทศอัฟริกา ชื่อ MR.PHILIP LAN REID อายุ 44 ปี ถูกแก๊งยาบ้าย่านถนนชายทะเล หมู่ที่ 1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 4 คน  รุมชกต่อย เตะ และกระทืบ ภายในซอยชายทะเล 8 หรือซอยผู้ใหญ่เฉลิม ได้ใช้ปืนปากกาจี้บังคับถอดแหวนทองคำหนัก 2 สลึง ที่ใส่อยู่ที่นิ้วนางมือขวา และล้วงเงินสด จำนวน 4,000 บาท ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นขับขี่มอเตอร์ไซด์หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ ฝรั่งยืนมึนงงไม่กล้าไปไหนเพราะเกรงจะถูกดักทำร้ายอีก
               
จากการสอบถาม MR.PHILIP LAN REID วิศวกรชาวอัฟริกา เล่าให้ฟังว่า

ได้เดินทางมาเยี่ยมภรรยาเป็นคนไทยซึ่งกำลังตั้งครรภ์ประมาณ 8 เดือนเศษ ที่หมู่บ้านดุสิต พัทยา ซอยวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และได้ขออนุญาตภรรยาออกมาเที่ยวเตร่เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด  โดยตอนประมาณ 01.00 น.ได้ไปเที่ยวคาราโอเกะที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ หลังจากนั้นได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาส่งเที่ยวที่ร้านเจ้าพระยาคาราโอเกะ ซอยชายทะเล 8ขณะที่เดินออกมาจากร้านเจ้าพระยา ได้มีวัยรุ่นเกือบ 10 คน ยืนอยู่หน้าปากซอย เดินเข้ามาชกต่อย เตะ จนล้มกับฟื้นกระทืบซ้ำ อีกทั้งใช้ปืนปากกาจี้ถอดแหวนทอง ล้วงเงินสด หนีไป

ส่วนทางด้าน นายทิม คชวัฒน์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ที่ 7 ตำบลพลวงทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันเช่าบ้านอยู่ในตลาดตำบลบางเสร่ ประกอบอาชีพขับขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เปิดเผยว่า ผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างมาจากร้านคาราโอเกะบางเสร่ ให้พามาส่งเที่ยวกับสาวบริการที่ร้านเจ้าพระยาคาราโอเกะ ถนนชายทะเล ซึ่งพึ่งเกิดเพลิงไหม้ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ จนเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ได้เดินออกมาจากร้าน ได้มีวัยรุ่นจำนวนมากยืนอยู่หน้าปากซอย เดินเข้ามาในซอย 4 คน จำหน้าได้ว่ามีวัยรุ่นประจำท้องถิ่นคือ นายตี๋  นายอาร์ท นายตูน นายปุ้ย เข้ามารุมทำร้าย ไม่กล้าเข้าไปช่วย เพราะวัยรุ่นกลุ่มนี้มีมีด มีปืนพกและปืนปากกาติดตัวอยู่ตลอดเวลา

สำหรับถนนย่านชายทะเล ตลาดสัตหีบ ได้มีวัยรุ่นแก๊งเสพ และจำหน่ายยาบ้ารวมแก๊งกันประมาณ 10 คน

ส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอสัตหีบออกตระเวน จี้ ปล้น ชิงทรัพย์ เกือบทุกคืน นักท่องเที่ยว ข้าราชการทหาร พลทหารในพื้นที่สัตหีบ ถูกทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์จำนวนมาก เดือนละประมาณ 20 ราย ส่วนมากเกรงอับอายไม่กล้าแจ้งตำรวจ ส่วนวิศวกรชาวอัฟริกาที่ถูกทำร้ายร่างกาย และปล้นทรัพย์ไปนั้น ได้ไปขอปรึกษาภรรยาคนไทยก่อน เพราะถ้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย อาจจะต้องแจ้งไปยังสถานทูต และเป็นคดีส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้า- ออก ประเทศไทย อีกทั้งต้องเป็นพยานศาลอีกนาน ทำให้เสียเวลา ยุ่งยาก