วันนี้ (29 พ.ค. 60) - พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อลัมโบร์กีนี สีเขียว ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ แล้วมีการระบุชื่อนักแสดงชายอักษรย่อ ‘ด.' เข้าไปเกี่ยวข้องกับ รถยนต์คันดังกล่าวว่า ประเด็นเรื่องของนายปกรณ์ ลัมหรือโดมนั้น ตนไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าว แต่หลังจากปรากฎเป็นข่าวไปแล้วนั้น มีคนมาถามตนว่านักเเสดงชายคนนี้ไปเกี่ยวข้องกับรถที่ถูกโจรกรรมหรือไม่ ขอเรียนการดำเนินคดีของดีเอสไอ เบื้องต้นเราจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้นำเข้ารถยนต์หลบเลี่ยงภาษี แต่สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ไปนั้น ในส่วนนี้จะพิจารณาเบื้องต้นก็อาจเป็นผู้เสียหาย ถ้าไม่ทราบว่ารถยนต์พวกนี้เข้ามาโดยมีกระบวนการที่มันผิดอย่างไร
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของนักเเสดงชายจากการตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้นแล้วพบว่ารถยนต์ของนักเเสดงชายไม่ใช่รถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ ไม่ใช่รถยนต์ที่อยู่ในบัญชีจำนวน 42 คัน ซึ่งตนได้ตรวจสอบข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่รถยนต์ของโดม เพียงแต่ตนเห็นว่า โดมบอกจะนำเอกสารมาชี้แจงและมาพบตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะรับเอกสารดังกล่าวที่โดมนำมาให้ไปตรวจสอบ และอาจจะต้องตรวจรถยนต์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับการประสานว่านักเเสดงชายจะเดินทางมาพบตนในวันที่ 30 พ.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า รถยนต์ของโดมอยู่ใน 160 คัน ที่ดีเอสไออายัดไว้จากการตรวจค้นเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง แต่ประเด็นมันไม่เหมือนกับที่ว่ารถของโดมเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งที่จริงแล้ว ยืนยันว่าเบื้องต้นมันไม่ใช่ อีกทั้ง จะทำให้โดมได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ รถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ มีรถยนต์ลัมโบร์กีนี สีเขียว รุ่นเดียวกันกับที่โดมมี แต่ไม่ใช่คันเดียวกันกับที่โดมครอบครองอยู่
"ส่วนเหตุผลที่ดีเอสไอมีการตรวจสอบรถของโดมและพบว่าเป็นคนละคันกับที่ถูกโจรกรรมมานั้น เป็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องตัวเลขและการจดทะเบียน ขอเรียนว่า เมื่อโดมนำเอกสารทั้งหมดมาให้ตนเราก็จะดำเนินการตรวจอีกครั้ง เพราะเอกสารที่ดีเอสไอตรวจเป็นเอกสารที่มีอยู่ในหน่วยงานของรัฐ แต่ของโดมที่จะเอามาชี้แจงก็ต้องดูว่ามันตรงกันหรือไม่ จึงอยากให้รอก่อน ทั้งนี้ รถยนต์ที่โดมเป็นผู้ครอบครองขณะนี้ยังอยู่กับโดม เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการอายัดไว้"
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ารถที่มีการฝากขายในโชว์รูมเป็นของโดมจริง รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า
รายละเอียดตรงนี้ต้องขอดูอีกครั้ง เพราะอย่างไรตนก็ต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอยู่ดี ทั้งนี้ คาดว่าโดมจะซื้อรถยนต์มาจากบริษัทที่ดีเอสไอได้เข้าทำการตรวจค้น ส่วนจะต้องดูเรื่องสำแดงราคาต่ำหรือไม่นั้น เรื่องการสำแดงราคาทางบริษัทเป็นผู้สำแดงราคา ส่วนผู้ซื้อเพียงนำเงินไปซื้อจากทางบริษัทเท่านั้น ซึ่งการสำแดงราคาคนนำเข้าเป็นคนสำแดง คือถ้าผู้ซื้อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับรู้กับการนำเข้าและเจตนาบริสุทธิ์ ตรงนี้ก็ค่อยพิจารณากันต่อไป ส่วนรถยนต์ของโดมมีสิทธิ์ที่จะสำแดงราคาไม่ตรงหรือไม่นั้น ตนจะขอตรวจสอบอีกครั้ง
"โดยทั่วไป การไปซื้อ หมายความว่าลักษณะไม่ได้รับรู้ว่ารถพวกนี้ทำราคาต่ำเข้ามา เหมือนเราเดินเข้าไปซื้อสินค้า และเข้าไปดูว่ารถราคาขนาดนี้ และคนซื้ออาจจะเปรียบเทียบกันหลายบริษัท บางทีเขาก็จะได้แจ้งมาว่าเมื่อราคาต่างกันไม่เยอะ เขาก็เลือกซื้อเอา ทั้งนี้ เราก็ต้องดูเหตุผลอย่างอื่นประกอบด้วย เพราะรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ราคาไม่น่าต่างกันเยอะ" พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว
เมื่อถามต่อว่า สำหรับผู้ครอบครองรถยนต์หรูจะแสดงตัวกับดีเอสไอได้อย่างไร รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า
หลังจากที่ไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ก็ได้ข้อมูลจากเอกสารและคอมพิวเตอร์จำนวนมาก จึงต้องเวลาในการตรวจสอบส่วนนี้ก่อน จะทยอยออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน แต่เบื้องต้นสิ่งที่ดีเอสไอจะทำคือเรียกกลุ่มผู้กระทำความผิด ถ้าพบว่าเป็นผู้กระทำความผิดแล้วก็จะออกหมายเรียกมาก่อน ส่วนผู้ครอบครองนั้น เราจะไว้ทีหลัง
"ส่วนการแยกกลุ่มผู้กระทำความผิดไว้กี่กลุ่มนั้น คือ กฎหมายระบุไว้ว่าผู้นำเข้าสินค้าผ่านกฎหมายของกรมศุลกากรหากกระทำความผิด ผู้นั้นจะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนผู้จำหน่ายเราก็ต้องตรวจสอบว่าไปเกี่ยวข้องการนำเข้าหรือไม่ เพราะการนำเข้าที่เป็นความผิดคือการนำเข้าโดยสำแดงราคาต่ำ ผ่านกระบวนการทางศุลกากร ซึ่งเราพบผู้ต้องสงสัยจะทำกระทำผิดแล้วหลายราย ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบและกระบวนการนำเข้ารถยนต์ รวมถึงระเบียบของกรมศุลกากรด้วย" พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว