พ่อแม่โวยรพ.ดังหมอปล่อยลูกดับ

เชื่อว่าหมอไม่รักษาคนไข้อย่างจริงจัง


เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนายสมนึก ฉากกิ่ง อายุ 42 ปี และนางวิภา จิตต์จะโปะ อายุ 38 ปี สองสามีภรรยาอยู่บ้านเลขที่ 244 หมู่บ้านใหม่วังหมี หมู่ 3 ต.เมืองปัก อ.ปัก ธงชัย ว่า ลูกชายคือ ด.ช.พีรธัช ฉากกิ่ง อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต ป่วยเป็นไข้เลือดออก จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง สุดท้ายลูกชายเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพวกตนเชื่อว่าหมอไม่รักษาคนไข้อย่างจริงจัง ลูกชายตนเลยตาย
 
จากนั้นนางวิภา ให้รายละเอียดอ้างต่อ ว่า

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายตนมีไข้ตัวร้อน เลยนำส่ง รพ.ดังกล่าว โดยหมอตรวจร่างกายเบื้องต้น บอกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่พวกตนขอให้หมอเจาะเลือดตรวจ เพราะกลัวลูกชายจะเป็นไข้เลือดออก เนื่องจากมีคนใกล้บ้านป่วยเป็นไข้เลือดออกหลายราย แต่หมอไม่ยอมเจาะเลือด แถมยังไล่ให้กลับบ้าน และสั่งยาให้กินเท่านั้น
 
หัวอกคนเป็นแม่บอกอีกว่า พอวันที่ 20 ส.ค.ลูกตนมีไข้ขึ้นสูงอีก และตัวร้อนจัด แถมยังอาเจียนอีก พวกญาติเลยนำส่ง รพ.เดิม

โดยคราวนี้หมอยอมเจาะเลือดไปตรวจ แต่ผลออกมากลับระบุว่าไม่พบเชื้อไข้เลือดออก พวกตนกับญาติเลยให้เด็กนอนดูอาการที่ รพ.ก่อน จากนั้นวันรุ่งขึ้นวันที่ 21 ส.ค. หมอมาเจาะเลือดอีกครั้งและมาบอกว่าไม่มีอะไร ทั้งที่ลูกตนตัวร้อนมาก ญาติเลยเช็ดตัวให้ สักพักมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งสั่งให้ญาตินำเด็กไปอาบน้ำ ปรากฏว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จเด็กไข้ลดลง แต่ตัวเย็นมากจนน่าตกใจ

นางวิภาบอกต่อว่าสักพักมีนางพยาบาล นำปัสสาวะเด็กไปตรวจ


พบว่าระดับน้ำในเลือดต่ำ พอญาติสอบถามอาการกลับบอกว่าเด็กเป็นไข้ธรรมดา ผ่านไปหลายชั่วโมง นางพยาบาลมาให้น้ำเกลือกับเด็กแต่ไม่ถึงชั่วโมงเด็กมีเลือดไหลทะลักออกจมูกกับปากเป็นจำนวนมาก สุดท้ายทาง รพ.บอกให้พวกตนรีบเก็บของนำคนไข้ส่งอีก   โรงพยาบาลหนึ่ง เพราะอาการหนักแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตลูกชายตนไว้ได้ เสียชีวิตลงในวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพวกตนเชื่อว่า หาก รพ. แรกที่รักษาลูกชายตน ให้ความสนใจคนไข้มาก กว่านี้ ลูกตนคงไม่ต้องตาย อยากให้ทาง รพ.มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ขอให้ลูกตนเป็นคนสุดท้าย  ที่สังเวยให้กับความไม่ใส่ใจ ของเจ้าหน้าที่ รพ.
 
ขณะที่ ผอ.รพ.คู่กรณีชี้แจงว่า แพทย์ได้ทำการรักษาตามขั้นตอนทุกอย่าง เหมือนคนไข้รายอื่น ๆ ทั่วไป

แต่เนื่องจากเด็กมีน้ำหนักตัวอ้วนมากถึง 98 กิโลกรัม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการรักษา ประกอบกับเด็กมีภูมิต้านทานน้อยกว่าเด็กทั่วไป ทำให้การเจาะเลือด หรือการเจาะเส้น เพื่อให้น้ำเกลือเป็นไปได้ยากลำบากกว่าเด็กคนอื่น ซึ่งเป็นปกติที่เด็กมีน้ำหนักตัวมาก จะมีความเสี่ยงสูงกว่าเด็กทั่วไป เมื่อมีอาการติดเชื้อไข้เลือดออก จึงขอฝากถึงผู้ปกครองว่าอย่าให้เด็กโดนยุงกัด เพราะบางคนมีภูมิคุ้มกันต่างกัน การรักษาแต่ละคน จึงยากง่ายตามไปด้วย ขอยืนยันว่าแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มความสามารถแล้ว ส่วนที่เด็กเสียชีวิต เพราะมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ปกติ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเมื่อติดเชื้อไข้เลือดออก โดยรายนี้ถือว่าเป็นรายแรกของจังหวัด ที่เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์