ชนวินาศ ไฟโชนท่วม6ล้อ ขนเอ็นจีวี

เมื่อเวลา 03.30 น. คืนวันที่ 25 ส.ค. พ.ต.ต.อภิวัฒน์ บุญสว่าง สารวัตรเวร สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งมีรถเฉี่ยวชนกันและมีเพลิงลุกไหม้ บริเวณสี่แยกสวนสมเด็จฯ ถนนติวานนท์ (มุ่งหน้าไปทางห้าแยกปากเกร็ด) ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก. นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครปากเกร็ด เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และรถดับเพลิงอีก 5 คันรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางสี่แยกไฟแดง

พบรถหกล้ออีซูซุ ทะเบียน 97-7455 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทเอ็กซ์ซี คาร์ดิโอ จำกัด บรรทุกถังบรรจุแก๊ส NGV ขนาด 2,000 ปอนด์ แบบที่ใช้ติดตั้งกับรถบรรทุกหรือรถเทรเลอร์หัวลากรวม 20 ถัง เสียหลักพลิกตะแคงข้างซ้าย สภาพหัวรถหันกลับมาทางไป จ.ปทุมธานี มีเพลิงลุกไหม้ ท่วมทั้งคัน สลับกับเสียงระเบิดของยางล้อรถทั้ง 4 ด้าน เจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดการจราจรทั้งสองฝั่งเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากเปลวเพลิงที่ลุกท่วมแดงฉานจับเต็ม ท้องฟ้าสูงนับ 10 เมตร พร้อมกันนี้ ยังได้ช่วยเหลือ นายสมศักดิ์ บางดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 6 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เป็นคนขับรถบรรทุกออกมาจากตัวรถอย่างทุลักทุเล ในสภาพถูกไฟลวกเป็นแผลพุพองผิวหนังหลุดล่อนทั่วทั้งร่างนำส่ง รพ.กรุงไทย อาการสาหัส มีแผลถูกไฟไหม้เกินกว่าร้อยละ 60 แพทย์ต้องรีบนำตัวเข้าผ่าตัดช่วยชีวิตและจัดให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อ

มีรอยถูกชนรอบคันพังยับเยิน กระเด็นไปชนเกาะกลางถนนห่างจากรถบรรทุกไปประมาณ 10 เมตร ภายในที่นั่งคนขับพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายกฤษณพงษ์ ถนอมสิงห์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/21 หมู่ 1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกอัด ก๊อบปี้ติดคาพวงมาลัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยงัดดึงร่าง ออกมาส่ง รพ.กรุงไทย อาการสาหัสเช่นกัน ส่วนจุดเกิดเหตุมีร่องรอยรถบรรทุกพุ่งชนเสาไฟกลางถนนและป้ายบอกช่องจราจรเสียหายทั้งแถบ

หลังเจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ท่วมรถบรรทุกนานกว่า 1 ชม. เพลิงจึงสงบ

ดพลิงไหม้ได้เผารถบรรทุกวอดหมดทั้งคัน ตรวจสอบบริเวณห้องโดยสารพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ในสภาพถูกไฟเผาร่างจนไหม้เกรียมเหลือแต่กระดูก ทราบชื่อนายกัปตัน ยังไม่ทราบนามสกุล อายุ 25 ปี เป็นเด็กประจำรถคันเกิดเหตุ สภาพศพช่วงตั้งแต่เอวลงไปกระเด็นหลุดออกมาด้านนอกถูกตัวรถทับติดคาพื้นถนน ส่วนลำตัวท่อนบนติดอยู่ในห้องผู้โดยสาร จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติชันสูตรศพอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.อ.ปากเกร็ด กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า

เบื้องต้นทราบว่ารถบรรทุกถังแก๊สขับออกจากบริษัทที่ย่านรังสิตจะไปส่งให้ลูกค้าที่ย่าน อ.ต.ก. โดยขับตีคู่มากับรถเก๋งนิสสัน เซฟิโรจนถึงจุดเกิดเหตุทราบเพียงว่ารถเก๋งเป็นฝ่ายเสียหลักพุ่งชนรถบรรทุก บริเวณถังน้ำมันที่อยู่ด้านข้างจนถังน้ำมัน แตกพลิกตะแคงข้าง เกิดประกายไฟลามไปติดน้ำมันที่รั่วไหลจึงเกิดไฟลุกท่วมทั้งคันจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายก่อนว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก แต่อาการสาหัสทั้งคู่ยังให้ปากคำไม่ได้ จึงยังไม่ตั้งข้อหากับใคร
 

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัท ปตท. ได้เดินทางมาตรวจสภาพรถบรรทุกที่เกิดเหตุ

พบว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้มาจากถังน้ำมันรถถูกชนกระแทกจนแตก และมีเปลวไฟกระเด็นไปถูกน้ำมันที่รั่วไหลออกมาจึงเกิดเพลิงไหม้ ส่วนถังแก๊สทั้ง 20 ใบ ไม่มีร่องรอยการระเบิดแต่อย่างใด ยังอยู่ในคอกเหล็กที่ใช้วางบนกระบะหลังทุกใบ ส่วนที่เห็นว่ามีเปลวเพลิงลุกไหม้รุนแรงนั้น บางส่วนคงจะเป็นเพราะไฟที่ลุกไหม้เผาตัวถังบรรจุแก๊สจนร้อนจัด แก๊สเกิดการขยายตัวจนแรงดันเกินกำหนดระบบวาล์วนิรภัยจึงทำงานระบายแก๊สออกจากถังเพื่อป้องกันถังระเบิด และตัวแก๊สก็ระเหยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว มีบางส่วนที่ลุกติดไฟเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายรุนแรงเหมือนอย่างแก๊สแอลพีจีหรือแก๊สหุงต้ม