สาวใช้แสบแอบขโมยทรัพย์สินบ้านผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
สาวใช้สุดแสบแอบขโมยทรัพย์สินบ้านผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ และเครื่องประดับมูลค่ากว่า 307,000 บาท
(25สค.) เวลา 10.30 น. ร.ต.ท.ยุทธศิลป์ การินทร์ ร้อยเวร สน.บางนา รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ในบ้านเลขที่ 99 ซอยแบริ่ง 3 ถ.สุขุมวิท 107 แขวงและเขตบางนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.พนัส ทำเนาว์ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางนา พ.ต.ท.ต่อเกียรติ พรหมบุตร รอง ผกก.สส.สน.บางนา
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทรงยุโรป ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ โดยมีนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รออยู่ที่เกิดเหตุ ที่บริเวณห้องนอนชั้น 2 มีทรัพย์สินหลายรายการทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ และเครื่องประดับเพชรต่างๆ มูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 307,000 บาท โดยพบคนรับใช้ในบ้านคือ น.ส.เด็ดสุดา บังกะชาติ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดนครพนม แจ้งว่าหลังจากที่นางธาริษาได้ออกจากบ้านไปเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.กว่าๆ มีคนร้ายปีนเข้ามาในบ้านและขโมยทรัพย์สินและหลบหนีไป แต่จากการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดสืบสวนไม่พบร่องรอยการงัดแงะใดๆ บ้านอยู่ในสภาพปกติ
เมื่อสอบปากคำรายละเอียดจากนางเด็ดสุดาให้การวกวนทั้งในเรื่องเวลาเกิดเหตุ และการก่อเหตุของคนร้ายว่า ไม่แน่ใจว่าเข้าทางใดประกอบกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุ น.ส.เด็ดสุดา ให้การว่าทำธุระอยู่ในห้องน้ำ จึงสงสัยว่าน.ส.เด็ดสุดา อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงให้ชุดสืบสวนช่วยกันกระจายกำลังกันตรวจค้นภายในบ้าน โดยเฉพาะชุดที่เป็นห้องพักของน.ส.เด็ดสุดาและจุดที่น.ส.เด็ดสุดาทำงานบ้าน กระทั่งในที่สุดพบทรัพย์สินใส่ไว้ในถุงพลาสติก และวางซุกซ่อนไว้ในตระกร้าเสื้อผ้าสีชมพู โดยมีเสื้อผ้ามาวางทับไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่ออำพรางสายตา โดยตระกร้าดังกล่าวได้อยู่ในห้องรีดผ้าชั้นล่างของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัว น.ส.เด็ดสุดา มาดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ของนายจ้าง
สอบสวนเบื้องต้น น.ส.เด็ดสุดา ยังไม่ยอมให้การใดๆ เอาแต่นั่งเอาหมอนปิดหน้า เบื้องต้นทราบว่า น.ส.เด็ดสุดามาทำงานที่บ้านหลังนีได้ 1 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุของหายมาก่อน หลังเกิดเหตุนางธาริษาก็ให้อภัยและไม่ดำเนินคดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทำตามได้ เนื่องจากเป็นคดีอาญา ต้องดำเนินคดี จึงนำน.ส.เด็ดสุดา มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา เกี่ยวกับพฤติกรรมและสาเหตุการขโมยทรัพย์สินอีกครั้ง