วันที่ 22 พ.ค. ร.ต.อ.สมพร ชูนุ่น รองสารวัตร (สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัดยางรถ และล้อมจับคนร้ายกลางถนนด้านหน้าโรงเรียนอำนวยศิลป์ ถนนศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนอำนวยศิลป์ พบรถกระบะตอนเดียวติดตั้งหลังคาเหล็ก ยี่ห้อมาสด้า บีที 50 โปร สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฒศ 8026 กรุงเทพมหานคร จอดแน่นิ่ง ถูกยิงยางแตกทั้ง 4 เส้น ส่วนผู้ขับขี่ถูก ร.ต.อ.ดุสิต สิงห์บุญตา รอง สวป.สน.ดินแดง และสายตรวจ สน.ดินแดง ควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายสาธิต หรืออ้วน ออมสิน อายุ 31 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ โดยมีอาการมึนเมาคล้ายคนเสพยาเสพติด จากการตรวจค้นภายในรถพบโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าบัตรประจำตัวของตำรวจสันติบาล และสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนที่ สน.พญาไท
จากการสอบถาม ร.ต.อ.ดุสิต กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งให้นำกำลังสายตรวจทั้งสิ้น 6 นาย ไปตั้งด่านตรวจตราและดูแลความเรียบร้อยให้ประชาชน บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ปากซอยหมอเหลง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นก็พบรถกระบะคันดังกล่าว ขับผ่านมาจึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่นายสาธิต กลับเร่งเครื่องขึ้นถนนจตุทิศขาเข้า มุ่งหน้ามาทางแยกศรีอยุธยา ตนจึงกระโดดขึ้นซ้อนท้าย รถ จยย.ลูกน้องสายตรวจเร่งเครื่องตามมาติดๆ พร้อมทั้งวิทยุขอกำลังเสริมจาก สน.พญาไท ช่วยไล่สกัดจับ
กระทั่งมาถึงบริเวณถนนจตุรทิศ ช่วงทางลงก่อนถึง สน.พญาไท นายสาธิต ได้ขับรถส่ายไปมา ในลักษณะน่าหวาดเสียว ตนจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ล้อรถของนายสาธิต ประมาณ 10 นัด จนรถเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาตรงเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนอำนวยศิลป์ ก่อนวิ่งเข้าชาร์จตัวนายสาธิตไว้ได้ดังกล่าว จากการตรวจปัสสาวะพบมีฉี่เป็นสีม่วง
จากการสอบสวนนายสาธิต ยอมรับว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นของตน นำมาวิ่งรับจ้างขนสินค้าให้บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพลส สาขาสมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แล้วขับออกจากบ้านพักที่สมุทรปราการ ก่อนมุ่งหน้าไปรับสินค้าที่ย่านงามวงศ์วาน ระหว่างเดินทางพบว่าการจราจรติดขัดมากผิดปกติเพราะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทำให้อารมณ์เสีย และเมื่อกำลังจะขับรถกลับไปที่บริษัท จู่ๆ เห็นตำรวจตั้งด่านก็เลยโมโห เร่งเครื่องแหกด่านหลบหนีมาจนถูกยิงสกัดยางรถและถูกควบคุมตัวได้ สำหรับโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 3 เครื่องนั้นเป็นของตนเพราะตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าด้วย ส่วนกระเป๋าบัตรระบุตราตำรวจสันติบาลนั้นเป็นของเพื่อนที่ลืมเอาไว้ในรถแต่ภายในกระเป๋าใช้เก็บบัตรประจำตัวของตนเท่านั้นไม่มีบัตรข้าราชการตำรวจแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
