เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 12 พ.ค.60 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ นายประเสริฐ ประเสริฐสุนทร หรือ ตุ้มเม้ง เถิดเทิง อายุ 36 ปี ดาราตลกชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.นิตยา อัฎฎาะวัชระ อายุ 30 ปี ภรรยาซึ่งเป็นครูสอนวิชาศิลปะที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โร่แจ้งความตำรวจ สภ.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ถูกกลุ่มคนอ้างเป็นไฟแนนซ์ขอตรวจสภาพรถหลังค้างค่างวด ก่อนถูกเชิดรถหลบหนีไป
นอกจากนี้กลุ่มคนดังกล่าว ยังบอกด้วยว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้ส่งค่างวดเกิน 3 เดือนแล้ว ก่อนจะหลอกภรรยาตนว่าขอกุญแจรถยนต์ไปเปิดรถ เพื่อขอถ่ายรูปภายในตัวรถว่าอุปกรณ์ทุกอย่างยังอยู่ครบ โดยภรรยาตนได้ถามว่าแค่ถ่ายรูปเท่านั้นใช่มั่ย แต่ถ้าจะมายึดรถต้องคุยกับแฟนตนก่อน เพราะรถเป็นชื่อของเขา ซึ่งทั้ง 3 คนก็ตอบว่า แค่ถ่ายรูปรถไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้บริษัทว่ามาตรวจสอบแล้ว ภรรยาจึงยอมให้กุญแจรถไป จากนั้นทั้ง 3 คนได้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของของภรรยาออกจากรถไปกองไว้กับพื้นด้านหน้าโรงเรียน ภรรยาตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรศัพท์มาบอกตน และส่งโทรศัพท์ให้คุยกับกลุ่มคนดังกล่าว โดยตนได้บอกว่าถ้าจะยึดรถให้รอตนเองไปถึงก่อน ในฐานะที่เป็นคนเช่าซื้อรถ และได้มีการติดต่อกับทางธนาคารในการนัดจะชำระค่างวดที่ค้างอยู่ไว้แล้ว ซึ่งทั้ง 3 คนก็ไม่ยินยอมก่อนจะขับรถออกจากโรงเรียนหลบหนีไป หลังเกิดเรื่องตนได้ปรึกษากับคนรู้จัก ซึ่งได้แนะนำให้เข้ามาแจ้งความไว้ก่อน เนื่องจากสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของธนาคาร
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ปกติตนเป็นคนติดต่อทางธนาคารธนชาตตลอดเวลา เพราะตนมีภาระเนื่องจากรถคันนี้ตนเพิ่งนำไปซ่อมมาแสนกว่าบาท และทางไฟแนนซ์ก็รู้เรื่อง เพราะตนแจ้งว่าอาจจะค้างค่างวดบ้าง แต่กลุ่มคนที่มาไม่ทราบเรื่องรถคันนี้เป็นรถยนต์ชื่อตน จริงๆทุกเรื่องไฟแนนซ์ต้องมาคุยกับตน เพราะตนเป็นคนเช่าซื้อ แต่สุดท้ายมาหลอกแฟนตนว่า จะตรวจสภาพรถและเอาผู้ชายมาคุยกับแฟน จากนั้นผู้หญิงก็ขับรถออกไปโดยไม่ได้แจ้งอะไร เรื่องนี้ทำให้แฟนตนที่เป็นครูต้องอับอายเสียชื่อเสียง และวิธีการมาเอารถไปก็ต้องมาคุยกันที่สถานีตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางไฟแนนซ์แจ้งว่ากำหนดให้ไปชำระภายใน 1-30 พ.ค.60 แต่ยังไม่ถึงวันครบกำหนดเลย กับส่งคนมายึดรถไป ตนตั้งข้อสงสัยว่าเราทำผิดสัญญาตรงไหน และทางไฟแนนซ์รู้เรื่องไหมมีการติดต่อกันไหม ปกติตนจะเป็นคนติดต่อไฟแนนซ์ตลอดเวลาค้างจ่ายก็จะโทรศัพท์บอกไฟแนนซ์ตลอด โดยหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อีกครั้งหนึ่ง โดยกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนได้ขับรถยนต์ของตนออกไปโดยไม่มีการแจ้งหรือมีหลักฐานอะไรไว้ให้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบไปทางไฟแนนซ์ ว่ามีการส่งบุคคลดังกล่าวมาดำเนินการยึดรถหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารสัญญาว่าเป็นไปตามข้อกฎหมาย และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครและเป็นตัวแทนจากบริษัทจริงหรือไม่ จากนั้นจะทำการเรียกทั้งหมดเข้ามาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป